เมื่อสัปดาห์ก่อน สหราชอาณาจักรเปิดเผยว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ประชาชน เพื่อศึกษาการกระตุ้นของภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนชนิดต่างๆ ล่าสุด สหรัฐฯ เผยว่า ในอนาคตอาจจะพิจารณาความจำเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ประชาชนเช่นกัน เนื่องจากนักวิจัย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งข้อสังเกตว่าระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนอาจลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งนั่นอาจทำให้ไม่สามารถป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีการวิวัฒนาการตัวเองอยู่เสมอได้
ดังนั้น ผู้ที่รับวัคซีน COVID-19 อาจจำเป็นต้องรับวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อป้องกันทั้ง COVID-19 สายพันธุ์เดิม และสายพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งคล้ายกับการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักทุก 10 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ อัลเบิร์ต เบลอร์ลา (Albert Bourla) ซีอีโอของไฟเซอร์เองก็เคยแสดงความเห็นไว้ว่า ผู้คนอาจต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 หลังฉีดวัคซีนหลักครบ 12 เดือน และอาจต้องฉีดเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่าภูมิคุ้มกันจะยังคงอยู่ และต้าน COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ได้
ขณะที่อเล็กซ์ กอร์สกี (Alex Gorsky) ซีอีโอของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็มีความเห็นในทางเดียวกันว่า ผู้คนอาจต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 เป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ดร.วิลเลียม มอสส์ (William Moss) ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการบริหารของศูนย์การเข้าถึงวัคซีนระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นจากการฉีดวัคซีน COVID-19 จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ แต่นักพัฒนาวัคซีนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างทราบกันดีว่า วัคซีนเหล่านี้ไม่สามารถคุ้มครองได้ตลอดไป และสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นใหม่อาจพัฒนาให้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้
แม้ว่าขณะนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาจะระบุว่า ยังไม่มีการกำหนดความจำเป็น และระยะเวลาในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แต่ วิเวก เมอร์ธีย์ (Vivek Murthy) ศัลยแพทย์สหรัฐฯ ระบุว่า ชาวสหรัฐฯ ควรเตรียมฉีดวัควีนสำหรับการบูสเตอร์ภายใน 1 ปี ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป ว่าภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ดร.แอนโธนี ฟอซี (Anthony Fauci) ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า จนถึงขณะนี้การศึกษาพบว่าวัคซีน mRNA ซึ่งผลิตโดยไฟเซอร์และโมเดอร์น่า สามารถรักษาประสิทธิภาพได้มากกว่า 90% ในช่วง 6 เดือนหลังจากได้รับวัคซีน แต่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่ามันน่าจะนานกว่านี้มาก
เชื่อว่าหาก COVID-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่ๆ เริ่มกระจายไปทั่วโลกมากขึ้น คำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนที่ใช้เป็นตัวกระตุ้นจะตามมาอย่างแน่นอน และแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าจะเริ่มใช้เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เราพอคาดเดาได้ตอนนี้ คือบทสรุปการฉีดวัคซีน COVID-19 อาจไม่หยุดในเข็มที่ 2 และอาจมีเข็มที่ 3, 4, 5 และ 6 ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าโลกเราจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างแท้จริง
อ้างอิงจาก
https://www.cnbc.com/…/pfizer-ceo-says-third-covid…
https://edition.cnn.com/…/covid-19…/index.html…
https://www.cnbc.com/…/pfizer-ceo-says-third-covid…
https://www.uchealth.org/…/covid-19-booster-shots-what…/
