ถึงวันนี้ ทุกคนต่างรู้แล้วว่า ‘วัคซีน’ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ยุติวิกฤต COVID-19 แต่สำหรับรัฐบาลไทยถึง กลับจัดหาวัคซีนมาได้อย่างล่าช้า วัคซีนหลักอย่าง AstraZeneca ก็ส่งมาน้อย ไม่เป็นไปตามแผน ทั้งที่ผลิตในประเทศแท้ๆ วัคซีนที่สั่งเข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่าง Sinovac ก็ประสิทธิภาพไม่สูงมากนัก และดูเหมือนจะป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ไม่ค่อยได้
รายการ #มาเถอะจะคุย ของ The MATTER x จอมขวัญ EP.17 ที่ออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2564 จึงชวนผู้เกี่ยวข้องหลายๆ ฝ่ายมาพูดคุยว่า สิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากรัฐบาลในเวลานี้คืออะไรกันบ้าง
นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรการแพทย์ที่ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลใช้ความพยายามอย่างสูงสุดในการจัดหาวัคซีนที่เพียงพอทั้งปริมาณและคุณภาพ โดยเฉพาะวัคซีนที่ป้องกันเชื้อสายกลายพันธุ์ได้ ระบุว่า การระบาดของ COVID-19 ระยะหลัง ทำให้ระบบการแพทย์ของไทย ‘ยิ่งกว่าตึงมือ’ และเป็นไปได้ว่าในอนาคต เชื้อสายกลายพันธุ์อาจเป็นตัวที่แพร่ระบาดหลัก มีแต่วัคซีนเท่านั้นที่จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยวัคซีนเชื้อตายอย่าง Sinovac อาจช่วยได้ในระยะต้น แต่ตอนนี้อยากให้มองหาวัคซีน mRNA ที่ป้องกันเชื้อสายกลายพันธุ์ได้
นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ตนไม่เคยด้อยค่า Sinovac เพราะในระยะแรก มีอะไรก็เอาเข้ามาก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะนอกจาก Sinovac ที่รัฐบาลจะสั่งมาในปีหน้าอีก 28 ล้านโดส (ปีนี้ที่สั่งแล้ว 19.5 ล้านโดส รวมเป็น 47.5 ล้านโดส) ยังได้ยินมาว่าจะสั่งเพิ่มอีก 40 ล้านโดส หมายความว่าเราจะใช้ Sinovac เป็นวัคซีนตัวหลักหรือ ทั้งที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน COVID-19 ที่กลายพันธุ์ต่ำมาก
“ทำไมเราต้องไปเอาเข้า Sinovac มามากมายขนาดนั้น ทั้งที่วัคซีนเชื้อตายประสิทธิภาพมันไม่สูงมาก ควรจะใช้เพื่อขัดตาทัพเท่านั้น แล้วผมก็ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไปหาวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ทั้งที่ควรจะนำเข้ามาให้หลากหลาย การไปยึดเพียงยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งมีความเสี่ยง รัฐบาลควรจะจัดหาทางเลือกมาให้เรา ไม่ให้ทำให้เราต้องจำยอม” นพ.รังสฤษฎ์กล่าว
ด้านสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งทำข้อมูลเปรียบเทียบการนำเข้าวัคซีน COVID-19 ระหว่างไทยกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฯลฯ กล่าวว่า หลายประเทศก็เปลี่ยนแผนการจัดหาวัคซีน และเขาสามารถหาวัคซีน mRNA ได้เร็วกว่าเรา บางชาติก็กระจายความเสี่ยง อย่างฟิลิปปินส์ รัฐบาลก็จัดหาวัคซีนมา 6-7 ยี่ห้อ คำถามคือ ที่รัฐบาลไทยจะซื้อ Sinovac เพิ่มปีหน้าอีก 28 ล้านโดส คำถามคือรัฐบาลไม่มีความสามารถจะไปเจรจากับยี่ห้ออื่นเลยหรือ ทั้งๆ ที่มันมีโอกาสจะหาวัคซีนยี่ห้ออื่นที่ดีกว่า หรือน่าจะเข้าร่วมโครงการ COVAX ที่ทำให้วัคซีนมีความหลากหลายขึ้น
สฤณียังตั้งคำถามกับข้อมูลการจัดหาวัคซีนที่ตอนนี้ขาดความโปร่งใส เช่น จนถึงตอนนี้ ยังมีมติ ครม.อนุมัติงบในการจัดซื้อวัคซีนเพียงของ AstraZeneca 61 ล้านโดส และ Sinovac 2.5 ล้านโดสเท่านั้น แล้ว Sinovac ที่จัดซื้อมาเพิ่มเติมภายหลังใช้งบประมาณเท่าไร ที่ผ่านมา รัฐบาลและ ศบค.ไม่ค่อยตอบคำถามประชาชนในเรื่องเหล่านี้ รวมถึงคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการวิกฤต COVID-19 อาจเพราะมองว่าถ้ารู้มากไป คนจะแตกตื่น แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว การให้ข้อมูลตรงไปตรงมา น่าจะมีประโยชน์มากกว่า
.
ดูรายการ #มาเถอะจะคุย EP.17 แบบเต็มๆ ได้ที่: https://www.facebook.com/thematterco/videos/316626920157335
#Brief #TheMATTER