เชื้อเดลตาเริ่มทวีความรุนแรง และรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุด Pfizer ได้ยื่นเรื่องไปยังหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ เพื่อขออนุมัติการฉีดวัคซีนของพวกเขาในโดสที่ 3 ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน พร้อมกับประกาศว่า พวกเขากำลังพัฒนาวัคซีน สำหรับรับมือกับเชื้อเดลตาโดยเฉพาะ
Pfizer ได้ประกาศว่า พวกเขาได้ยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมการอาหารและยา และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ในการขออนุมัติ ให้มีการฉีดวัคซีนของพวกเขาในโดสที่ 3 เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน ที่ได้รับวัคซีนของ Pfizer ครบโดสไปก่อนหน้านี้
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเดลตา ที่ทวีความรุนแรงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในทั่วโลก มีงานวิจัยจากฝรั่งเศสในชี้ว่า เชื้อเดลตาสามารถหลบวัคซีนได้ดี โดยเฉพาะในผู้ที่ได้รับวีคซีนไม่ครบโดส อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยระบุว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง จะยังคงมีอัตราความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสอยู่มาก
“เรากำลังเตรียมการให้มีการฉีดกระตุ้นในอีกโดส เมื่อข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่ามันมีความจำเป็น” Pfizer ประกาศ โดยผลวิจัยระบุว่า วัคซีนของ Pfizer ที่กำลังใช้ปัจจุบัน มีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันผู้ที่ได้รับวัคซีนของพวกเขาครบโดสจากเชื้อเดลตา แต่ประสิทธิภาพของมันจะลดลงเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปแล้ว 6 เดือน
ตัวเลข 6 เดือน ถูกคาดการจากการที่อิสราเอล เริ่มฉีดวัคซีน Pfizer ไปในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นเวลาที่ล่วงเลยมาแล้วกว่า 6 เดือน จนมีงานวิจัยพบว่า อัตราการป้องกัน COVID-19 ในผู้ที่ได้รับวัคซีนของพวกเขา ตั้งแต่ช่วงนั้นจนถึงตอนนี้ ลดลงมาเหลือ 64 เปอร์เซ็นต์ ณ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นอกจากการเตรียมการฉีด Pfizer โดสที่ 3 เพื่อกระตุ้นให้แก่ประชาชน ที่ได้รับวัคซีนของพวกเขาครบโดสไปแล้ว Pfizer ยังได้ประกาศว่า พวกเขากำลังพัฒนาวัคซีน COVID-19 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับเชื้อเดลตาโดยตรง หากแผนการฉีดวัคซีนโดส 3 ของ Pfizer ล้มเหลว
เชื้อเดลตาได้ระบาดไปในทั่วทุกมุมโลก และมันเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าเชื้อ COVID-19 ก่อนหน้านี้ การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้แก่ประชาชน และวางแผนการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จึงจะเป็นแนวทางในการรับมือ กับการแพร่ระบาดที่ขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER