บางโรงเรียนเริ่มหันมาออกนโยบาย เพื่อให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง ได้ลดความตึงเครียดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ผ่านการงดการเรียนการสอนออนไลน์ชั่วคราว โดยหนึ่งในโรงเรียนเหล่านั้น คือ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ออกประกาศเรื่อง “งดทำการเรียนการสอนออนไลน์ วันที่ 26 – 30 กรกฎาคม 2564” โดยมีใจความระบุถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มสูงขึ้น และโรงเรียนได้ใช้การเรียนการสอนออนไลน์ ในภาคการศึกษาที่ 1/2564 มาเป็นเวลากว่า 2 เดือน จนเกิดความตึงเครียดในบรรดานักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจนครูผู้สอน
ด้วยปัญหาดังกล่าว โรงเรียนจึงตัดสินใจ งดการเรียนการสอนออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 26 – 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 รวมเป็นเวลาทำการ 5 วัน และจะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2564 โดยโรงเรียนขอให้นักเรียน ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ รวมถึงได้ใช้เวลาไปกับการพัฒนาทักษะด้านอื่น นอกเหนือจากด้านการเรียน ทั้งนี้ The MATTER ได้ต่อสายพูดคุย กับทางโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ถึงนโยบายการงดเรียนออนไลน์ในครั้งนี้
ทางโรงเรียนระบุกับ The MATTER ว่า เริ่มมีความคิด ในการงดเรียนออนไลน์ชั่วคราว ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน แต่ด้วยว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในตอนนั้นยังมีไม่มาก จึงตัดสินใจยังไม่ประกาศในตอนนั้น เนื่องจากมีความห่วงใยถึงสวัสดิภาพของสังคมโดยรวม เพราะไม่อยากให้มีการเดินทางท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ประกอบกับในช่วงนั้นยังเปิดเทอมมาได้ไม่นาน และบรรยากาศการเรียนการสอนออนไลน์ยังไม่ตึงเครียดเท่าปัจจุบัน
เมื่อเวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆ และตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ประชาชนเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จนทำให้สังคมโดยรวมเกิดความตึงเครียด โรงเรียนเองได้รับเสียงสะท้อนจากนักเรียน ที่พวกเขาพบว่ามีภาระงานจำนวนเพิ่มมากขึ้น และผู้ปกครองก็ต้องทำงานและแบ่งเวลามาดูแลลูก จนบางกรณีเกิดความตึงเครียดขึ้นในครอบครัว
นอกจากนี้ ด้านครูผู้สอนก็ต้องพยายามหาแรงจูงใจให้นักเรียนในการเรียนออนไลน์ เนื่องจากแผนการสอนเดิม ถูกวางเอาไว้เพื่อการเรียนการสอนในห้องเรียนจริง การคิดกิจกรรม การสร้างปฏิสัมพันธ์ และการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จึงส่งผลให้ครูผู้สอนต้องวางแผนการสอนใหม่ทั้งหมด และต้องปรับสมดุลกับภาระงานในสภาวะการณ์ปัจจุบัน ซึ่งก็อาจจะไปกระทบกับภาระงานของนักเรียนย้อนเป็นวงจร ทำให้ทุกคนเกิดความเครียดสะสม
โดยปกติ ทางโรงเรียนได้ออกนโยบายสำคัญ ให้ในคาบเรียนออนไลน์ 10 นาทีแรก ต้องเป็นการทักทายพูดคุยระหว่างครูผู้สอนกับนักเรียน ส่วน 5-10 นาทีหลัง ครูผู้สอนต้องปล่อยนักเรียนก่อนเวลา เพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาส่วนตัว ยืดเส้นยืดสาย และผ่อนคลายความเครียด เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเรียนออนไลน์ในวิชาต่อไป อีกนโยบายหนึ่ง ที่โรงเรียนนำมาใช้ คือ ไม่มีการสอบกลางภาคและปลายภาค เพื่อลดภาระให้แก่นักเรียนและครูผู้สอน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้
สำหรับวิธีการประเมินการเรียนของนักเรียน โรงเรียนเลือกใช้วิธีการให้คะแนนการเข้าชั้นเรียน และการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เพื่อนักเรียนทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด
ที่สำคัญที่สุด ทางโรงเรียนเห็นว่า การหยุดเรียนออนไลน์ จะสามารถทำให้นักเรียนได้มีเวลาพัฒาทักษะด้านอื่นๆ และได้ใช้เวลาไปกับการพักผ่อน เพื่อให้พวกเขาได้มีสุขภาพจิตที่ดี โดยโรงเรียนระบุว่า ขอให้ครูไม่สั่งการบ้านเพิ่ม ในขณะที่โรงเรียนประกาศหยุดการเรียนออนไลน์ และขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง สนับสนุนให้บุตรหลาน ทำกิจกรรมที่พัฒนาทักษะด้านอื่นของพวกเขา นอกเหนือจากด้านการเรียน ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่จะมาถึงนี้
สุดท้ายนี้ ทางโรงเรียนขอสะท้อนเสียงของนักเรียน ที่ต้องการกลับมาเรียนที่โรงเรียนแล้วอีกครั้ง ไปยังผู้มีอำนาจ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาวัคซีน ให้พิจารณาอย่างเร่งด่วน ในการจัดหาวัคซีนสำหรับเด็ก ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อคืนความสุขให้กับนักเรียนโดยเร็ว
ก่อนหน้านี้ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มีนโยบายให้นักเรียนสามารถแต่งชุดไปรเวทมาเรียนได้ในทุกวันอังคาร จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคม โดยทางโรงเรียนพบว่า การแต่งชุดไปรเวทในนักเรียน ช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายและรู้สึกดี ที่จะได้มาเรียนในโรงเรียน และโรงเรียนเองก็ไม่พบว่าการแต่งชุดไปรเวทจะส่งผลกระทบต่อการเรียนที่แย่ลง
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/BCClive1852/photos/a.10151771767821413/10159359525066413/
#Brief #TheMATTER