ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยระบุว่า ในช่วงแรกๆ ของการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้คนมีฝันประหลาดเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด มีนักวิจัยได้ระบุว่า เธอพบว่าผู้คนต่างฝันร้าย ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ แต่กลับมีฝันที่ดีขึ้น ในช่วงที่สถานการณ์เริ่มผ่อนคลายลง
จากรายงานระบุว่า มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่พบว่าตัวเองมีความฝันประหลาดๆ หรือแม้แต่กระทั่งฝันร้ายอันน่ากลัว ระหว่างช่วงที่เลวร้ายที่สุดในการแพร่ระบาดใหญ่ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ส่วนตัว ในเรื่องร้ายแรงต่างๆ ที่พวกเราเคยเจอมาในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคลากรด่านหน้า และผู้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวจาก COVID-19 ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีฝันที่เลวร้ายลงกว่าเดิม
เดียร์ดรี บาร์แร็ตต์ นักจิตวิทยา จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัฮาร์เวิร์ด ได้เก็บตัวอย่างความฝันต่างๆ ทั้งดีและร้าย ตั้งแต่ COVID-19 เริ่มระบาด โดยผู้คนส่วนใหญ่มักมีความกลัวต่อความตายในช่วงเวลากลางคืน ในขณะที่จิตใต้สำนึกของเรา ก็คิดแต่เรื่องภัยคุกคามในตอนนี้ ซึ่งก็คือ COVID-19 มันจึงทำให้สมองของเรา จำลอง COVID-19 เป็นผู้ล่า
งานวิจัยพบว่า ผู้หญิงได้รับผลกระทบจากฝันร้าย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 มากกว่า เนื่องจากพวกเธอหลายคนเป็นแม่ ที่ต้องดูแลลูกจากการที่โรงเรียนถูกสั่งปิด ทั้งนี้ บาร์แร็ตต์ ได้เก็บตัวอย่างความฝัน จากความฝันทั้งสิ้น 14,000 ความฝัน ของผู้คนที่มาจาก 76 ประเทศทั่วโลก โดย 2 ใน 3 เป็นประชากรจากสหรัฐฯ ตลอดการทำวิจัยนั้น เธอพบว่าความฝันของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของการแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดเมืองตามปกติ แนวโน้มของความฝันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
บาร์แร็ตต์ ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า เธอพบว่าเมื่อสหรัฐฯ เริ่มกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง ความฝันของผู้คนก็เริ่มเปลี่ยน โดยความฝันมีแนวโน้มจะเป็นเรื่องเชิงบวกมากขึ้น และมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น ความฝันจำนวนมากเริ่มกลับมามีภาพของการที่ผู้ฝัน ได้กลับไปรวมตัวกันในคนหมู่มาก ได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ไปเต้นที่ผับ ไปดูกีฬา และได้กลับมาพบปะกับญาติพี่น้องอีกครั้ง
ฝันลักษณะนี้มีเกิดขึ้นบ้างในช่วงการแพร่ระบาด ที่ยังไม่มีการเปิดเมือง และมันยิ่งทำให้ผู้คนเศร้าใจ เพราะชีวิตจริงทำอย่างนั้นไม่ได้ แต่บาร์แร็ตต์ กล่าวว่า ฝันของผู้คนเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม ค.ศ.2019 หลังจากที่มีข่าวว่า วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ฝันดีในเชิงบวกก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อพวกเขาตื่นมา พวกเขาก็พบว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกเศร้าใจ เพราะมันมีความหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
บาร์แร็ตต์ กล่าวอีกว่า ผู้คนยังคงฝันเห็นหน้ากากอนามัยกันอยู่ เช่น การฝันว่าพวกเขาลืมใส่หน้ากาก หรืออยู่ในจุดที่คนรอบตัวไม่ใส่หน้ากาก การฝันอย่างนี้เกิดขึ้นจากอาการตื่นตกใจ เนื่องจากความกลัวต่อ COVID-19 ที่ฝังอยู่ลึกๆ ภายในจิตใจของพวกเขา
บาร์แร็ตต์ ระบุกับ CNN ว่า เธอยังคงเต็มไปด้วยความสงสัยว่า ฝันในลักษณะที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 จะยังคงดำเนินไปในหัวของกลุ่มตัวอย่างอีกนานแค่ไหน หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐฯ เริ่มดีวันดีคืน
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2021/07/12/health/dreams-pandemic-opening-wellness/index.html
https://www.surveymonkey.com/r/B8S75CN
https://www.apa.org/pubs/journals/releases/drm-drm0000149.pdf
#Brief #TheMATTER