ยังอยู่ในกระแสให้สังคมพูดถึงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสูตรการฉีดวัคซีนสลับชนิด เข็มที่ 1 Sinovac – เข็มที่ 2 AstraZeneca หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศอนุญาตให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเริ่มฉีดสูตรนี้ ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางส่วนออกมาแสดงความเห็น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แพทย์จากจุฬาฯ ที่บอกว่า การฉีดด้วยสูตรนี้ไม่ต่างอะไรกับการฉีด AstraZeneca เข็มเดียว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “การใช้ Sinovac เข็มแรกและตามด้วย AstraZeneca อาจเป็นเหมือนได้ AstraZeneca เข็มเดียว เพราะ Sinovac ออกแบบมาให้ฉีด 2 เข็มจึงจะได้ผล”
หมอธีรวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนหลายๆ ชนิด แม้ฉีดเพียง 1 เข็มก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้บ้างแล้ว ซึ่งตามข้อมูลจาก Financial Times ระบุว่า การฉีดวัคซีน Pfizer เพียง 1 เข็ม ให้ผลลัพธ์การป้องกัน COVID-19 สายพันธุ์เดลตาในพื้นที่ศึกษาแตกต่างกัน แคนาดา 65% อังกฤษ 33% และสก็อตแลนด์ 33% ขณะที่วัคซีน AstraZeneca ฉีดเข็มเดียวให้ผลลัพธ์การป้องกันในแคนาดา 67% อังกฤษ 33% และสก็อตแลนด์ 33%
จะเห็นได้ว่า แม้ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม ระดับภูมิคุ้มกันก็ขึ้นมาในระดับหนึ่ง ซึ่งต่างจากวัคซีน Sinovac ที่ผลการทดลองจากศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี ไบโอเทค พบว่า แม้ฉีดครบ 2 เข็ม แต่ภูมิคุ้มกันจะลดลง 50% ในทุกๆ 40 วัน
หมอธีรวัจน์ยังแสดงความเห็นถึงการฉีดวัคซีนไขว้ชนิด โดยระบุว่า แนวทางนี้เป็นแนวทางภาคบังคับเนื่องจากวัคซีนแต่ละยี่ห้อออกมาไม่ทันใช้ จึงต้องหายี่ห้ออื่นมาใช้ร่วมกัน ประกอบกับความต้องการเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไทยฉีด Sinovac เป็นวัคซีนตัวหลัก และพบว่าช่วงเดือนแรกสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดี แต่ในเดือนที่สอง เริ่มมีรายงานผู้ติดเชื้อ และการป่วยแบบแสดงอาการมากขึ้น
สอดคล้องกับข้อมูลระดับภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จาก 90% เหลือเพียง 30-40% ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เห็นได้จากทั้งประเทศชิลี และอินโดนีเซีย ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาสูงอีกครั้งหลังฉีดวัคซีน Sinovac ครบโดส
ขณะที่ ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การฉีดวัคซีนสูตร เข็มที่ 1 Sinovac – เข็มที่ 2 AstraZeneca สร้างระดับภูมิคุ้มกัน Neutralizating antibody (NAb) ได้สูงกว่าการฉีด Sinovac 2 เข็ม แต่น้อยกว่าการฉีด AstraZeneca 2 เข็ม แต่เนื่องจากประเทศไทยขาดแคลน AstraZeneca เพราะบริษัทไม่สามารถจัดส่งได้ตามที่รัฐวางแผนไว้
ประกอบกับการใช้ Sinovac แล้วตามด้วย AstraZeneca ในเวลา 3-4 สัปดาห์ จะได้ระดับ NAb ขึ้นเร็วกว่าสูตร AstraZeneca ที่ต้องทิ้งช่วงนาน 8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการทำให้วัคซีน Sinovac ที่มีเพียงพอ (แต่ความต้องการต่ำ และประสิทธิภาพต่ำกว่า) เกิดประโยชน์สูงสุด
อย่างไรก็ตาม หมอมานพกล่าวว่า มาตรการนี้ควรเป็นมาตรการระยะสั้นในช่วงที่ปริมาณวัคซีน AstraZeneca ไม่เพียงพอเท่านั้น และควรหยุดสั่งซื้อ Sinovac เพิ่ม หันไปจัดหาวัคซีนชนิด mRNA หรือวัคซีนชนิดอื่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าอย่าง Novavax มาเป็นวัคซีนตัวหลัก จะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมกว่า
อ้างอิงจาก
https://web.facebook.com/thiravat.h/posts/4677577372275780
https://web.facebook.com/thiravat.h/posts/4674633715903479
https://www.prachachat.net/general/news-711947
https://www.ft.com/…/5a24d39a-a702-40d2-876d…