เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. สำนักข่าวมติชนรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันนี้มีการประชุมด่วนของ ศปก.ศบค. ในประเด็นการพิจารณายกระดับมาตรการควบคุมไวรัส COVID-19 โดยมีการเสนอให้ยกระดับมาตรการควบคุมการเคลื่อนที่ คำสั่งปิดกิจการ กิจกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ในข้อเสนอดังกล่าว มีการระบุให้ยกระดับมาตรการควบคุมการเคลื่อนที่ ทั้งการเดินทางข้ามจังหวัด ภายในจังหวัด ระหว่างประเทศ และชายแดน มีการพูดคุยกันถึงมาตรการตรวจหาเชื้อ รักษา และการกระจายวัคซีน COVID-19 ให้แก่กลุ่มเสี่ยง หรือผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง รวมถึงปิดทุกกิจการที่ไม่สำคัญ ยกเว้นการขนส่งสินค้า, อาหาร, ยา, วัคซีน, การสื่อสาร และสาธารณูปโภค
มีการเสนอมาตรการบริหารจัดการและควบคุมไวรัส COVID-19 ทั้งระบบทีมเคลื่อนที่เร็วแบบเบ็ดเสร็จ (Covid-19 Comprehensive Response Team: CCRT) มาตรการ Home Isolation มาตรการ Community Isolation และมาตรการบริหารจัดการโรงพยาบาลให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด
มีการเสนอให้สถานประกอบการ เช่น โรงงาน ใช้วิธีการตรวจด้วย Antigen Test Kit มาตรการบับเบิ้ล แอนด์ ซีลเพื่อควบคุมโรค ส่วนกรณีสถานประกอบการที่ไม่สามารถดำเนินการตามมาตรการได้ ให้เน้นการทำงานจากที่บ้านให้มากขึ้น
รายงานจากสำนักข่าวมติชน ตรงกับโพสต์ในเฟซบุ๊กเพจ ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ที่เขียนลงเมื่อวันที่ 16 ก.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. มีใจความว่า ให้เจ้าหน้าที่และประชาชน โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่แดงเข้ม เตรียมรับมาตรการควบคุมการเคลื่อนที่ที่เข้มงวดมากขึ้น การสั่งปิดกิจการชั่วคราวพร้อมมาตรการเยียวยา
มาตรการตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit รวมถึงการฉีดวัคซีนผสมสูตร Sinovac แล้วตามด้วย AstraZeneca ร่วมกับ AstraZeneca สองเข็ม และการฉีดเข็มวัคซีนเข็มสามเพื่อกระตุ้นให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับ Sinovac สองโดส โดยให้เลือกระหว่าง AstraZeneca หรือ Pfizer ที่จะเข้าไทยภายในเดือนนี้ (ก.ค.)
ทั้งนี้ มาตรการทั้งหมดข้างต้น ยังต้องถูกนำเข้าที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยเพิ่มเติมในเร็ววันนี้
อ้างอิง:
https://www.matichon.co.th/politics/news_2834016
https://www.facebook.com/454636668365287/posts/1140940766401537/?d=n
#Brief #COVID19 #Corornavirus #TheMATTER