หนึ่งในประเทศ ที่มีการพัฒนาวัคซีนเป็นของตัวเอง เพื่อลดการหวังพึ่งวัคซีนจากต่างชาติ คือ ไต้หวัน โดยเมื่อวานนี้ (19 กรกฎาคม) รัฐบาลไต้หวันเพิ่งให้การอนุมัติวัคซีน ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินแล้ว
วัคซีนตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท เมดิเจน วัคซีน โบโอโลจิกส์ คอร์ป (Medigen Vaccine Biologics Corporation) หรือ Medigen ด้วยเทคโนโลยีเดียวกันกับ Novavax ของสหรัฐฯ โดยเป็นการใช้โปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ ที่เรียกว่าวัคซีนประเภท Protein Subunit เสริมสร้างแผนพัฒนาการป้องกันตัวเองจาก COVID-19 ของไต้หวัน ในมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และ Medigen อาจจะกลายเป็นอีกชื่อหนึ่งของวัคซีน COVID-19 ที่จะคุ้นหูพวกเรา
การอนุมัติการใช้วัคซีนแบบใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) ในครั้งนี้ ได้รับการรับรองหลังจากที่วัคซีนของ Medigen ได้ผ่านการทดลองมาแล้ว 2 ระยะ และพบว่ามันมีความปลอดภัย ตลอดจนคุณภาพที่ไม่แย่ไปกว่า วัคซีนของ AstraZeneca อย่างไรก็ดี วัคซีนตัวดังกล่าว คือเป้าหมายหลักที่ทางรัฐบาลไต้หวัน ที่ได้ตั้งเอาไว้ นอกจากการนำเข้าวัคซีนกว่า 20 ล้านโดส ได้แก่ วัคซีนของ Moderna, AstraZeneca และวัคซีนจากโครงการ COVAX
วัคซีนของ Medigen มีชื่อเรียกว่า MVC-COV1901 โดยรัฐบาลไต้หวันตั้งเป้าจะฉีดให้แก่ประชากร ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป ด้วยการฉีดจำนวน 2 โดส ห่างกันโดสละ 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ การอนุมัติเพื่อการใช้ในกรณีฉุกเฉินของรัฐบาล จะช่วยให้บริษัท Medigen สามารถเร่งการผลิตวัคซีน COVID-19 ตัวใหม่ของพวกเขา ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เฉิน สือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน ระบุว่า “มันน่าจะมีวัคซีนจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถถูกผลิตออกมาใช้ในช่วงเดือนสิงหาคม” วัคซีน Medigen ถูกพัฒนาขึ้นร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ และ Medigen ได้ร่วมลงนามกับ UBI Pharma ตลอดจนรัฐบาลไต้หวัน ที่จะผลิตวัคซีนตัวนี้ ในจำนวนทั้งสิ้น 20 ล้านโดส
วัคซีนเทคโนโลยี Protein Subunit เป็นวัคซีนที่ผลิตมาจากโปรตีนส่วนหนึ่ง จากตัวเชื้อ COVID-19 ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ด้วยการเพาะเลี้ยงเพื่อสร้างโปรตีนหนาม (spike protein) แล้วทำให้เกิดความบริสุทธิ์ด้วยกระบวนการทางเคมี เพื่อทำให้ไม่มีแบคทีเรียหรือสสารอื่นหลงเหลือ ก่อนจะนำมาผสมเข้ากับสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และฉีดให้มนุษย์
โดยวัคซีนของ Medigen ตัวนี้มีข้อดีที่ว่า มันจะส่งผลข้างเคียงได้น้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และวัคซีนสามารถเก็บได้ในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ อย่างไรก็ดี วัคซีนชนิดนี้ยังมีข้อเสีย คือมันอาจสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่นาน จึงจะต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มเติม
ปัจจุบัน ไต้หวันมีการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ครอบคุมประชากร 20 เปอร์เซ็นต์
โดยไต้หวันเคยมีข้อพิพาท ที่พวกเขาออกมาระบุว่า รัฐบาลไต้หวันถูกรัฐบาลจีนขัดขวางการนำเข้าวัคซีนของ Pfizer ซึ่งมีโรงงานผลิตตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ จนทำให้ไต้หวันต้องทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนของ BioNTecH เองโดยตรงจากเยอรมนี
นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้รับวัคซีนจากการบริจาคของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอีก 6 ล้านโดส และยังคงต้องรอการจัดส่งวัคซีนอีกส่วนหนึ่งของ AstraZeneca ที่ผลิตขึ้นในโรงงานของไทย การอนุมัติวัคซีน Medigen เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน อาจช่วยไต้หวันกู้วิกฤต COVID-19 ของประเทศได้ทันท่วงที
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/1846120432364947/posts/2791609381149376/?extid=0&d=n
https://vaccine-safety-training.org/subunit-vaccines.html
https://thematter.co/brief/148768/148768
#Brief #TheMATTER