ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ (2 กันยายน) พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการสอบคัดเลือกนักเรียนนายร้อยทหาร ที่มีเกณฑ์ส่อว่าอาจมีการเลือกปฏิบัติ ผ่านอุดมการณ์ความคิด และรสนิยมทางเพศ เพื่อให้ได้นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตามความต้องการ
พิจารณ์เปิดคลิปเสียงหลายคลิป โดยเนื้อหาของคลิป เป็นเสียงของผู้บัญชาการระดับนายพลตำรวจระดับสูง และเสียงของกรรมการสอบสัมภาษณ์ โดยในเนื้อหามีการระบุถึงเกณฑ์การวัดนักเรียนนายร้อยทหาร ซึ่งจะถูกคัดออกหากพบว่าคุณสมบัติดังกล่าว เพื่อป้อนตำรวจรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบ
ในคลิปแรก มีเสียงของผู้บังคับบัญชาการตำรวจระดับสูง โดยเรียกกลุ่มคนแรกที่จะไม่ถูกรับเข้าโรงเรียนนายร้อย ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีอุดมกาณ์ทางการเมืองตรงกันข้ามกันกับกองทัพว่า “ไอ้เ-ี้ยส้ม” โดยกลุ่มคนลักษณะนี้ จะถูกล็อกเอาไว้ให้เป็นกลุ่มสีแดง คือ ไม่รับเข้าเรียนต่อในโรงเรียนนายร้อยทหาร รวมไปถึงคนที่ไม่ได้มีความสนใจสถาบันหลักจริง หรือก็คือคนที่ไม่รักสถาบันกษัตริย์ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องหาเกณฑ์วัดทางวิทยาศาสตร์ เพื่อคัดคนเหล่านี้ออกให้ได้
เสียงของผู้บัญชาการตำรวจระดับนายนี้ ยังพูดรวมถึงเกณฑ์การคัดเลือกที่จะไม่รับกลุ่มคนที่มีรสนิยมเป็น LGBT โดยในเสียงบอกว่า “ลักษณะหน้าตาจะบอกอยู่แล้ว” ทั้งนี้ คลิปเสียงยังมีการระบุว่า “ทำให้ดีๆ ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ และได้ของดีเข้ามา” โดยกองทัพทหารและตำรวจ จะต้องหาตัวชี้วัดในการคัดคนเหล่านี้ออกในทางกายภาพ “เราต้องการตำรวจที่ทั้งกายภาพข้างนอกเนี่ย และตำรวจที่มีทัศนคติดีมีข้างในที่ดีในทุกๆ เรื่อง”
ทั้งยังมีคลิปเสียงสัมภาษณ์ถึงการเลือกปฏิบัติทางเพศ ที่นอกจากจะไม่รับกลุ่ม LGBT แล้ว ผู้สอบสัมภาษณ์ที่มีทัศนคติเชิงบวกต่อกลุ่ม LGBT ก็จะไม่ได้รับการเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยด้วย เช่น มีเพื่อนเป็น LGBT หรือไม่, หากถูกคนที่มีรสนิยมชอบผู้ชายมาบอกชอบจtทำอย่างไร, หากมีลูกเป็น LGBT จะทำอย่างไร, และคิดอย่างไรกับทหารตำรวจในเครื่องแบบที่เป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว
พิจารณ์ยังได้เปิดเผยเอกสารคำถาม ในการใช้สอบสัมภาษณ์บนประเด็น LGBT โดยมีหลายคำถาม เช่น คิดอย่างไรถ้าต้องทำงานร่วมกับคนชอบเพศเดียวกัน คิดว่าจะมีปัญหาอะไรไหม, ถ้าอยู่ร่วมหรือทำงานกับผู้รักเพศเดียวกัน คิดว่าคนกลุ่มนี้จะต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่, คิดอย่างไรกับนักศึกษาข้ามเพศ สามารถใส่ชุดนักศึกษาตามเพศสภาพได้, และคิดอย่างไรกับเรื่องการผลักดันการจดทะเบียนสมรสของคนเพศเดียวกัน
รวมถึง ยังมีอีกคลิปเสียงสัมภาษณ์ของกรรมการสอบเข้าโรงเรียนนายร้อย ที่ระบุถึงการชุมนุมในปัจจุบัน โดยถามว่า การชุมนุมในปัจจุบันนี้ถูกต้องหรือไม่ รวมถึงคำถามที่ว่า ถ้าหากได้เป็นตำรวจที่ไปยืนคุมม็อบ แล้วกำลังจะถูกตีจะทำอย่างไร
นอกจากนี้ กรรมการยังได้ถามคำถามต่อผู้เข้าสอบ ถึงทัศนคติในเรื่องการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในเรื่องการบริหารสถานการณ์ COVID-19 รวมถึงทัศนคติต่อการทำรัฐประหาร พิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่า คำถามลักษณะนี้ เป็นคำถามเพื่อคัดคนที่จะให้การสนับสนุน และสยบยอมต่อระบอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงคำถามวัดทัศนคติต่อการทำรัฐประหาร ซึ่งถือว่าเป็นการโค่นล้มระบอบการปกครอง ทั้งๆ ที่ทุกสิ่งนี้ ได้เงินมาจากงบประมาณ
นอกจากประเด็นการสอบคัดเลือกนักเรียนโรงเรียนนายร้อยแล้ว พิจารณ์ยังได้อภิปรายถึงกรณีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องราคาส่วนต่างหลายล้านบาท หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงการจัดซ่อมบำรุง ที่มีความไม่ชอบมาพากลด้วยเช่นกัน
พิจารณ์ระบุด้วยว่า ไทยจะไม่มีทางได้กองทัพที่เป็นมืออาชีพ และอยู่เคียงข้างประชาชน หากปล่อยให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นต่อไป
#Brief #politics #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #TheMATTER