คืนวันที่ 3 ก.ย.2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีประเด็นสำคัญคือการแก้ไขปัญหาจากวิกฤตโควิด-19 ก่อนจะลงมติในช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย.2564 จู่ๆ ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากตัวแทนของรัฐบาลจีน เมื่อเพจของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความอ้างว่าเป็นคำพูดของโฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทย โจมตีฝ่ายที่เขาเรียกว่า “ด้อยค่าและใส่ร้ายวัคซีนจีนโดยไม่มีเหตุผลใดๆ” พร้อมเรียกร้องให้ยุติการกระทำ
มีเนื้อหาทั้งหมด ดังนี้
“คัดค้านการกล่าวหาวัคซีนจีนโดยไร้เหตุ โดย โฆษกสถานทูตจีนประจำประเทศไทย
“ปีนี้ ประเทศจีนได้ส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทยในโอกาสแรก เพื่อเป็นการสนับสนุนประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 โดยได้พยายามเอาชนะกับความยากลำบากที่ความต้องการในการใช้วัคซีนภายในประเทศยังสูงอยู่ และจำนวนวัคซีนที่ผลิตยังไม่เพียงพอ ซึ่งวัคซีนจีนทุกโดสก็เป็นมิตรไมตรีจิตรอันจริงใจที่รัฐบาลและประชาชนจีนมีต่อรัฐบาลและประชาชนไทย
“วัคซีนที่ฝ่ายจีนส่งมอบให้ฝ่ายไทยนั้น ได้รับการอนุมัติโดยองค์การอนามัยโลกให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินได้ และได้ผ่านการวิจัยและทดลองในมนุษย์ในระยะต่างๆ ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการอาหารและยาของไทยอย่างเคร่งครัด เป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิผลและมีการรับรองคุณภาพ
“การกลายพันธุ์ของตัวไวรัสโคโรนาเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่บริษัทผลิตวัคซีนของจีนติดตามโดยตลอด บริษัทซิโนแวคได้ทำการทดสอบแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ระหว่างเซรั่มของผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวคกับไวรัสกลายพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งก็ได้ผลออกมาอย่างดี ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศชิลีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันการรักษาที่โรงพยาบาล อาการหนักและเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 86% ผลการวิจัยของรัฐบาลอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม แสดงให้เห็นว่า ประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคในการป้องกันการรักษาที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตได้ถึง 92% และ 95% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวพิสูจน์ได้ว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์เป็นอย่างดี ไม่ใช่วัคซีน ‘คุณภาพต่ำ’ ตามที่กล่าวหาอย่างแน่นอน
“เมื่อเร็วๆ นี้ บางคนและบางองค์การของประเทศไทยได้ด้อยค่าและใส่ร้ายวัคซีนจีนโดยไม่มีเหตุผลใดๆ ซึ่งเป็นการกล่าวหามุ่งร้ายที่ไม่เคารพข้อมูลวิทยาศาสตร์และความเป็นจริง และเป็นการทำร้ายความหวังดีของฝ่ายจีนในการสนับสนุนประชาชนไทยต่อสู้กับโรคระบาด สถานทูตจีนจึงขอคัดค้านอย่างเด็ดขาด และเรียกร้องให้บุคคลและองค์การที่เกี่ยวข้องยุติการกระทำผิดอย่างร้ายแรงเช่นนี้
“ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยต่อไป โดยยึดมั่นในความจริงใจและความหวังดีอย่างมากที่สุด ให้ความช่วยเหลือกับฝ่ายไทยในการต่อสู้กับโรคระบาด หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะเอาชนะกับโรคโควิด-19 โดยเร็ว และกลับคืนสู่ภาวะปกติในการดำรงชีวิตและทำงานในเร็ววัน”
ทั้งนี้ ตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง 4 วัน (ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.2564) หนึ่งในประเด็นที่ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี คือการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะ Sinovac จากจีน ทั้งเรื่องประสิทธิภาพที่ไม่สูงมากนัก โดยเฉพาะเมื่อใช้กับสายพันธุ์เดลต้า, ส่วนต่างราคาในการจัดซื้อกับงบประมาณที่ ครม.อนุมัติ, การทดลองสูตรฉีดไขว้โดยไม่มีงานวิจัยมารองรับ ฯลฯ ซึ่ง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะจากพรรคภูมิใจไทย ที่มีอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค ได้พยายามใช้วาทกรรม “อย่าด้อยค่าวัคซีน” มาตอบโต้เสียงวิจารณ์ดังกล่าว
ที่มา: https://www.facebook.com/ChineseEmbassyinBangkok/posts/4352763731437065
#Brief #TheMATTER