“การจะทุ่มเทชีวิตให้กับเรื่องที่ชอบ มันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือ?”
‘Blue Period’ การ์ตูนแนวดราม่า สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับศิลปะและตีแผ่ชีวิตของเหล่าเด็กมัธยมปลายที่ต้องการจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะ จากมังงะชื่อเรื่องเดียวกันของอาจารย์ สึบาสะ ยามากุจิ (Tsubasa Yamaguchi) ที่ลงพิมพ์ในนิตยสาร Afternoon นิตยสารมังงะรายเดือนของโคดันฉะ แถมมังงะเรื่องนี้ยังเคยได้ที่ 3 ในงานประกวด Manga Grand Prize ปี 2019 และได้รางวัลชนะเลิศมาในปี2020 ซึ่งในที่สุดมังงะเรื่องนี้ก็ถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมะด้วยฝีมือของสตูดิโอ Seven Arcs โดยเตรียมเข้าฉายใน Netflix วันที่ 9 ตุลาคม นี้แล้ว
การ์ตูนเรื่องนี้ว่าด้วย ‘ยางุจิ ยาโทระ’ เด็ก ม.5 ที่แม้จะดูเหมือนเป็นเด็กเก แต่กลับมีทั้งผลการเรียนดีระดับท็อปของชั้น แถมนิสัยก็เฟรนด์ลี่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ยาโทระใช้ชีวิตวัยมัธยมของเขาไปกับการตั้งใจเรียน ติวหนังสือ รวมถึงเที่ยวเล่น กินเหล้า สูบบุหรี่กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม โดยที่ก็ไม่เคยตอบตัวเองได้เลยว่าชอบอะไร…
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับภาพวาดสีน้ำมันที่ทำให้ได้รู้ตัวว่า ตัวเองชอบและสนุกในการวาดภาพ ยาโทระจึงตัดสินใจอยากเอาจริงเอาจังกับความชอบนี้ และต้องการที่จะสอบเข้า ‘เกย์ได’ (มหาวิยาลัยศิลปะโตเกียว) ให้ได้ เรื่องราวความมุ่งมั่น และการเรียนรู้พื้นฐาน เทคนิคของศิลปะจึงได้เริ่มขึ้น
‘Blue Period’ จึงจะเล่าเรื่องทั้งหมดผ่านมุมมองของยาโทระ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งตัดสินใจเอาจริงเอาจังกับศิลปะ ทำให้การเล่าเรื่องของศิลปะ (และระบบการสอบเข้ามหา’ลัยศิลปะ) ในเรื่องกลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องมีความรู้พื้นฐานทางศิลปะมาก่อนรึเปล่า รวมถึงยังอธิบายเทคนิคหรือพื้นฐานเหล่านั้นให้เข้าใจได้ง่ายจนรู้สึกอินและสนุกไปด้วยจริงๆ
นอกจากเรื่องราวของศิลปะและการเรียนรู้เพื่อเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยศิลปะ ที่เป็นแกนหลักของเรื่องแล้ว เรื่องนี้ยังสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับการตัดสินใจเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ก็เป็นอีเวนต์หลักในชีวิตเด็กมัธยมปลายหลายคน และความหลากหลายทางเพศไว้ในเรื่องอีกด้วย
ใครที่อยากรู้เรื่องราวของศิลปะแบบเจาะลึก หรืออยากสนุกไปกับเรื่องราวศิลปะที่เข้าถึงได้ง่าย ‘Blue Period’ ก็เป็นมังงะและอนิเมะอีกเรื่องหนึ่งที่น่าตามเก็บอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แค่มีเนื้อเรื่องที่สนุกและสอดแทรกความรู้ แต่เรื่องนี้ก็เป็นมังงะที่มีลายเส้นสวยสะดุดตาอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
สามารถตามไปเก็บกับแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่สำนักพิมพ์ Luckpim เลยนะตอนนี้มีถึงเล่ม 3 แล้ว ส่วนสายอนิเมะก็เข้าไปกดแจ้งเตือนอนิเมะทิ้งไว้กันใน Netflix ได้เลย
#Brief #WhatsUp #TheMATTER