“ฉันแค่อยากได้ชีวิตตัวเองคืน ฉันโดนปล้นชีวิตไป 13 ปี มันนานพอแล้ว” เสียงของบริตนีย์ในช่วงอินโทรของสารคดี แค่ประโยคเริ่มต้นก็ทำเอาหลายคนพอจะเดาได้ว่า สารคดีเรื่องนี้กำลังจะเล่าอะไรให้เราฟัง
น่าเศร้าที่เราได้ยินประโยคนี้จากนักร้องไอคอนิคแห่งยุค หากย้อนไปในช่วงตอนต้นของศตวรรษที่ 20 อัลบั้ม Baby One More Time จากสาวน้อยอายุ 16 ปีได้สร้างปรากฎการณ์ยอดขาย 20 ล้านแผ่น และสร้างชื่อเสียงให้เธออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอัลบั้มต่อมาอย่าง Oops!… I Did It Again ก็ยิ่งทวีความโด่งดั่ง ส่งให้เธอเป็นดั่งดอกไม้ไฟที่สว่างเจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้า ที่ไม่ได้หายไปในชั่วข้ามคืน เธอเปล่งประกายยิ่งขึ้น
แต่แล้วเมื่อปีค.ศ. 2007 ปีที่มรสุมชีวิตของเธอเริ่มต้นขึ้น เธอต้องหย่าขาดกับสามี เสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร และหลังจากนั้นเหล่าแฟนๆ ก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอ ยิ่งนานวันเธอไม่มีท่าทีที่จะกลับมาเป็นดาวจรัสฟ้าดวงเดิม เธอต้องได้รับการบำบัด ดูแลสุขภาพจิต รวมถึงศาลสั่งให้พ่อของเธอ เจมี่ สเปียร์ส เป็นผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย
การมีพ่อแท้ๆ ของตนเองคอยเป็นผู้ดูแล หลายคนเชื่อว่าปัญหาเรื่องนี้จะจบลงและทุกอย่างจะคลี่คลายในที่สุด แต่มันกลับกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ #FreeBritney) ไม่นานมานี้ เธอตัดสินใจฟ้องถอดถอนสิทธิ์การเป็นผู้พิทักษ์ เธอให้การต่อศาลถึงเรื่องราวที่เธอต้องเผชิญมานับสิบปี ในสถานะใต้ปกครองของพ่อแท้ๆ ของเธอ และในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เจมี่ สเปียร์ส ได้ยุติบทบาทของการเป็นผู้ทักษ์ลง
โดยในสารคดีนี้ จะเป็นการพูดคุยกับคนที่เคยอยู่รายล้อมบริตนีย์ ไม่ว่าจะเป็นแดนเซอร์ อดีตผู้ช่วยส่วนตัว อดีตผู้จัดการ ปาปารัสซี่ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอ เหมือนกับว่าเราจะได้มองจากมุมของคนนอกเสียหน่อย และไม่ได้มีจังหวะที่ตื่นเต้นหวือหวาเท่าไหร่นัก แต่เราจะได้ฟังเรื่องราวของเธอตามไทม์ไลน์ ตามมุมมองของคนรอบตัวเธอที่มองเข้าไปในเรื่องนี้
ติดตามเรื่องนี้ได้ใน Britney Vs Spears บน NETFLIX ได้แล้ววันนี้
#Brief #whatsup #TheMATTER