เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเทศกาลดนตรี Astroworld ที่รัฐเท็กซัสนำมาสู่การฟ้องร้องทีมผู้จัดงาน และแรปเปอร์ชื่อดังอย่าง Travis Scott โดยระบุว่าเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์และป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้
มานูเอล ซูซา หนึ่งในผู้เข้าชมคอนเสิร์ต Travis Scott และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่คนเบียดเสียดกันได้ยื่นฟ้องทั้งตัว Travis ทีมผู้จัดงาน รวมถึงผู้ดูแลการจัดคอนเสิร์ต โดยระบุว่า โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการมุ่งหากำไรมากกว่าสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ชม และเป็นต้นเหตุให้เกิดความรุนแรง
“ผู้ถูกฟ้องร้องล้มเหลวในการวางแผนจัดงานคอนเสิร์ตอย่างถูกต้องและปลอดภัย” สตีฟ เคอร์เคอร์ ทนายความของซูซากล่าวแล้วบอกอีกว่า พวกเขาไม่สนใจต่อความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้ชมคอนเสิร์ต และบางครั้งยังกระตุ้นให้ผู้ชมแสดงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายด้วยซ้ำ
นี่เป็นคดีแรกๆ ที่มีการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการหลังเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น และคาดว่าน่าจะมีคดีอื่นๆ ตามมาอีก เพราะนี่ถือเป็นเหตุการณ์ที่สูญเสียที่มากที่สุดในรอบหลายปี
เหตุการณ์ชุลมุนนี้เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 5 พฤศจิกายน แฟนเพลงแรปเปอร์ชื่อดังเข้าไปเบียดเสียดอยู่หน้าเวทีเพื่อจะได้เห็นศิลปินคนโปรดชัดๆ จากนั้นเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายลง หลังเริ่มมีคนขาดอากาศหายใจ และถูกเหยียดจนเสียชีวิต รถพยาบาลฉุกเฉินได้เข้ามาในจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว แต่เหตุชุลมุนก็ยังไม่ยุติลง ผู้ชมคอนเสิร์ตยังอยู่ในอารมณ์คึกคะนอง มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกฉีดยาเสพติดเข้าที่คอ และมีผู้ชมคอนเสิร์ตขึ้นไปเต้นบนรถผู้ป่วยฉุกเฉิน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ Travis ถูกวิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากผู้อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า แม้จะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น รวมถึงมีคนส่งสัญญาณอันตรายให้แล้ว แต่ Travis ก็ยังทำการแสดงต่อไป ขณะที่ต้นสังกัดออกมาชี้แจงว่า ตอนแรก Travis ยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น และหลังจากรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ก็รู้สึกเสียใจต่อผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกราย
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER