“การเริ่มต้นด้วย mRNA แล้วจะหาวัคซีนชนิดอื่นกระตุ้นได้ยาก การเริ่มต้นด้วยไวรัสเวกเตอร์ ยังสามารถใช้ mRNA เป็นตัวกระตุ้น การใช้วัคซีนเชื้อตายเริ่มต้นปูพื้น สามารถใช้ได้ทั้งไวรัล Vector กระตุ้น หรือต่อไปจะใช้ mRNA กระตุ้นได้อีก”
.
“covid-19 ยังคงอยู่กับเราอีกนาน และเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องกระตุ้น และเมื่อกระตุ้นเข็ม 3 แล้ว อาจจะยังต้องมีเข็มที่ 4 ที่ 5 ในปีต่อๆไปโดยระยะเวลาในการใช้กระตุ้นครั้งต่อไปก็คงต้องยาวนานออกไปอีก”
.
คือข้อสรุปจากโพสต์ของ นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ด้านไวรัสวิทยา ที่ออกมาระบุถึงแนวทางการฉีดวัคซีน COVID-19 เข็มหนึ่ง เข็มสอง และเข็มสามที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยเนื้อหาสำคัญ ระบุถึง ระยะเวลา ระยะห่าง ของการกระตุ้น และการให้วัคซีนกระตุ้น
.
ในประเด็นเรื่องของชนิดวัคซีนนั้น นพ.ยง เขียนเอาไว้ว่า
.
“ในการเลือกชนิดของวัคซีนใน covid-19 วัคซีนเชื้อตายจะเป็นวัคซีนปูพื้นที่ดี ไม่เหมาะเป็นวัคซีนกระตุ้น เชื้อตายใช้ไวรัสทั้งตัว การปูพื้นเหมือนเป็นการจำลองการติดเชื้อ ขณะนี้ทางตะวันตกก็พัฒนาวัคซีนเชื้อตาย เช่นของฝรั่งเศส ที่ใกล้ออกมาแล้ว คือวัคซีน Valneva ผ่านระยะที่ 3 และกำลังขอขึ้นทะเบียนในยุโรป ที่ประเทศในยุโรปให้ความสนใจ”
.
นอกจากนี้ ยังระบุว่า “ระยะห่างของการปูพื้น และการกระตุ้น ยิ่งห่างยิ่งดี แต่ถ้าห่างเกินไปภูมิต้านทานลดลงก่อนกระตุ้น ก็จะเกิดการติดเชื้อแทรกขึ้นมาได้ เช่นถ้าการให้ 2 เข็ม ที่ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น จะสู้ 2 เข็มที่ห่างมากกว่า 3-4 สัปดาห์ไม่ได้ ตัวอย่างเห็นได้ชัด ในวัคซีน AstraZeneca สามารถให้ได้ห่าง 4 – 12 สัปดาห์ การให้ห่าง 8 หรือ 16 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะดีกว่าให้ห่างกันที่ 4 สัปดาห์ เช่นเดียวกันกับวัคซีนตัวอื่น ในโรคที่มีความรุนแรง”
.