การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างจีนและสหรัฐฯ เป็นที่จับตาไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเด็นสำคัญอย่างการสนับสนุนเอกราชไต้หวัน ซึ่งสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ออกโรงเตือนสหรัฐฯ ว่าการสนับสนุนเอกราชไต้หวันนั้นเป็นการ ‘เล่นกับไฟ’
การประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง 2 ชาติเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ โดยผู้นำทั้งสองได้ทักทายกันอย่างอบอุ่น ขณะที่สี จิ้นผิงเปิดเผยว่าเขาเหมือนได้มาพบกัน ‘เพื่อนเก่า’ แม้ว่าเนื้อหาการประชุมอย่างเรื่องเอกราชไต้หวันจะดูไม่อบอุ่นเหมือนบรรยากาศก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้ง 2 ประเทศต่างมีจุดยืนในเรื่องนี้คนละแบบ ขณะที่จีนถือว่าดินแดนไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนมาตลอด สหรัฐฯ เองยืนกรานที่จะปกป้องไต้หวันหากถูกจีนโจมตี
สำนักข่าว Global Times ของรัฐบาลจีนรายงานว่าในระหว่างประชุม สี จิ้นผิงได้ตำหนิความพยายามของไต้หวันในการขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เช่นเดียวกับความตั้งใจของชาวสหรัฐฯ บางคนที่ต้องการใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือควบคุมจีน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “การกระทำดังกล่าวอันตรายอย่างมาก เหมือนกันเล่นกับไฟ ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกไฟเผา”
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ไบเดนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า สหรัฐฯ ยึดมั่นต่อนโยบายจีนเดียวมาโดยตลอด ส่วนเรื่องความเป็นเอกราชนั้นเป็นการตัดสินใจของไต้หวัน แต่สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับความพยายามในการเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ หรือทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
ทั้งนี้ นอกจากประเด็นเอกราชไต้หวัน ทั้งสองชาติยังหารือเรื่องการค้า และสิทธิมนุษยชน โดยไบเดนได้แสดงความกังวลถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและชาวอุยกูร์ในเขตซินเจียง ขณะที่จีนมองว่าสหรัฐฯ กำลับแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
ส่วนประเด็นการค้า ไบเดนยืนยันว่าจะมุ่งมั่นปกป้องแรงงานและอุตสาหกรรมของชาวสหรัฐฯ จากแนวทางดำเนินการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน ขณะที่สี จิ้นผิงก็โต้กลับว่า สหรัฐฯ เองก็ต้องหยุดนำแนวคิดว่ามั่นคงของชาติมากดขี่บริษัทจีนในทางที่ผิดเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-china-59301167
Reporter: "What happens next on Taiwan?"
President Biden: “Nothing happens, we’re not going to change our policy at all. […] They have to decide, they Taiwan, not us. And we are not encouraging independence. We’re encouraging that they do exactly what the Taiwan Act requires.” pic.twitter.com/e5fp0W0xVA
— The Hill (@thehill) November 17, 2021
#Brief #TheMATTER