เพิ่งเป็นข่าวไปทั่วโลกเมื่อมหาวิทยาลัยฮ่องกงรื้อถอนประติมากรรม ‘เสาแห่งความอัปยศ’ (Pillar of Shame) อนุสรณ์รำลึกเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 1989 ที่ปรากฏแก่สายตาสาธารณชนในมหาวิทยาลัยฮ่องกงมาเป็นเวลา 23 ปี ซึ่งได้หายไปอย่างเงียบๆ เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค. 2564)
เช้าวันนี้ (24 ธ.ค.) มีรายงานอีกว่า ประติมากรรมรำลึกเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเหมินในมหาวิทยาลัยอีก 2 แห่ง ก็เพิ่งถูกรื้อถอนด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งได้แก่ รูปปั้น ‘เทพีประชาธิปไตย’ (Goddess of Democracy) ที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) กับอีกที่หนึ่งคือ กำแพงแกะสลักรำลึกถึงเหตุการณ์เทียนอันเหมินในมหาวิทยาลัยหลิงหนาน
รูปปั้นเทพีประชาธิปไตยที่ CUHK เป็นผลงานของ เฉิน เว่ยหมิง ศิลปินชาวจีน ที่สร้างเลียนแบบอนุสาวรีย์ชิ้นเดิมที่ขบวนการนักศึกษาในปักกิ่งได้ทำขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 1989 ก่อนเหตุการณ์นองเลือดจตุรัสเทียนอันเหมิน โดยสโมสรนักศึกษาได้ยื่นเรื่องขอให้ CUHK จัดแสดงรูปปั้นดังกล่าวในมหาวิทยาลัย แต่ถูกปฏิเสธ ทาง CUHK ก็อ้างในแถลงการณ์ว่าเป็นการรื้อถอนรูปปั้นที่ไม่เคยได้รับอนุญาต
ส่วนกำแพงแกะสลักในมหาวิทยาลัยหลิงหนาน ก็เป็นผลงานของ เฉิน เว่ยหมิง เช่นเดียวกัน โดยถูกรื้อถอนไปในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ ช่วงเช้าวันนี้ โฆษกของมหาวิทยาลัยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Hong Kong Free Press (HKFP) ว่า ชิ้นงานดังกล่าวมีความเสี่ยงทางด้านกฎหมายและความปลอดภัย ทางมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องรื้อถอนออกไป และนำไปจัดเก็บให้เหมาะสม
การรื้อถอนทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 2 วันติดต่อกัน และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่มีคนสัญจรไปมาเพื่อหลีกเลี่ยงแรงต่อต้าน เช่น การรื้อถอนประติมากรรม 2 แห่งของวันนี้ ก็เกิดขึ้นในวันคริสต์มาสอีฟซึ่งเป็นวันหยุด เฉิน เว่ยหมิง ได้ให้สัมภาษณ์กับ HKFP ว่า เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้มีอำนาจเกรงกลัวกระแสต่อต้านจากสังคมมาก จึงได้แอบนำออกไปในชั่วข้ามคืน
เหตุการณ์นองเลือดจตุรัสเทียนอันเหมินเป็นประเด็นละเอียดอ่อนในการเมืองจีนมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมา การแสดงออก เช่น การจัดแสดงรูปปั้นเสาแห่งความอัปยศ ก็ไม่เคยถูกปิดกั้นในฮ่องกง การรื้อถอนประติมากรรมทั้งสามสะท้อนอำนาจของจีนแผ่นดินใหญ่เหนือฮ่องกงที่มากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสกัดกั้นผู้เห็นต่างของทางการจีน โดยเฉพาะหลังจากที่จีนประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2021/12/23/world/asia/hong-kong-tiananmen-statue.html