กัมพูชาเดินหน้าบังคับใช้ ‘National Internet Gateway’ (NIG) หรือ ‘เกตเวย์อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ’ คาดว่าจะเริ่มต้นใช้จริงภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่หลายฝ่ายห่วงว่าจะเป็นการจำกัดควบคุมอินเทอร์เน็ตโดยรัฐ กรณีเดียวกับ ‘The Great Firewall’ ของจีน
ภายใต้อินเทอร์เน็ตเกตเวย์ใหม่ของกัมพูชา ทราฟฟิคการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดจะต้องมีเส้นทางผ่านเกตเวย์ดังกล่าว ซึ่งมีทางเข้า–ออกทางเดียว และถูกควบคุมโดยรัฐบาล คล้ายๆ กับซิงเกิลเกตเวย์ที่เคยได้รับการเสนอขึ้นในไทย โดยขณะนี้ รัฐบาลได้ออกคำสั่งไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ให้ดำเนินการย้ายเส้นทางทราฟฟิคภายในสัปดาห์นี้
สำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้ระบุว่า มีเพื่อรักษา “ระเบียบทางสังคม วัฒนธรรม และประเพณีของชาติ” โดยจะช่วยในการปกป้องความมั่นคงของชาติ และช่วยในการเก็บภาษีได้อย่างสะดวกมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาระยะหนึ่งแล้วเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิของสหประชาชาติเตือนว่า การบังคับใช้อินเทอร์เน็ตเกตเวย์จะมีผลกระทบอย่างหนักต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพในการแสดงออก
ขณะที่ จัก โสเพียบ ผู้อำนวยการบริหารศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา (Cambodian Centre for Human Rights หรือ CCHR) ให้ความเห็นว่า “เป็นไปได้อย่างยิ่งที่ NIG จะกลายมาเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลกัมพูชาใช้ควบคุมและสอดส่องการไหลเวียนของข้อมูลในกัมพูชา”
ด้าน โสภัล เอีย อธิการบดีสถาบันการจัดการนานาชาติธันเดอร์เบิร์ด มหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต และผู้รอดชีวิตจากระบอบเขมรแดง ได้ระบุว่า “NIG เป็นเพียงการรวมศูนย์ของระบบควบคุมอินเทอร์เน็ตของกัมพูชาที่เคยมีลักษณะกระจายอำนาจมาก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์จะเป็นการบดขยี้เสรีภาพในการแสดงออกที่มีเหลืออยู่น้อยนิดในโลกออนไลน์”
ผู้สังเกตการณ์หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า การบังคับใช้ NIG เป็นความพยายามอีกขั้นหนึ่งของรัฐบาลฮุน เซน ในการกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่มีการจับกุมประชาชนบางส่วนมาแล้วก่อนหน้านี้ CCHR ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มีประชาชนอย่างน้อย 35 คนที่โดยจับกุม โดยเป็น 21 คนที่ถูกตั้งข้อหาเกี่ยวข้องกับการโพสต์ลงบนสื่อออนไลน์
ทางด้านรัฐบาลกัมพูชา ก็เคยออกมาตอบโต้ว่า การใช้ NIG ไม่ได้มีเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพใดๆ คณะผู้แทนถาวรของกัมพูชา ประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ระบุว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามหลักการความชอบด้วยกฎหมาย (legality) หลักความจำเป็น (necessity) และหลักความได้สัดส่วน (proportionality) และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตและการพัฒนาผ่านระบบดิจิทัลของกัมพูชา
อ้างอิงจาก
https://www.bangkokpost.com/world/2263923/cambodia-steps-up-surveillance-with-new-internet-gateway
https://www.phnompenhpost.com/national-politics/national-internet-gateway-not-anti-freedom