การอุบัติขึ้นของโรคระบาดที่ลากมานานกว่า 2 ปีทำให้หลายๆ คนต้องเผชิญหน้ากับภาวะล็อกดาวน์ ซึมเศร้า วิตกกังวล จนนำมาสู่ปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนในอังกฤษ กำลังเผชิญกับการระบาดของปัญหาสุขภาพจิตระลอกใหม่ หลังสถานการณ์ผู้ติดเชื้อกลับมาน่ากังวลอีกครั้ง
วิกฤตโรคระบาดทำให้แนวโน้มผู้ที่จะมีปัญหาทางสุขภาพจิตทะยานสูงขึ้น เนื่องจากต้องอาศัยอยู่กับความวิตกกังวลมาเป็นเวลานาน ซึ่งราชวิทยาลัยจิตแพทย์ของอังกฤษระบุว่า ตอนนี้คลื่นผู้ป่วยสุขภาพจิตกำลังถาโถมเข้ามา จนหน่วยงานและองค์กรที่ดูแลปัญหานี้โดยตรงมีไม่เพียงพอ ประชาชนหลายคนต้องรอนานกว่าจะได้เข้ารับบริการ โดยพวกเขาเรียนปรากฏการณ์นี้ว่า การระบาดของปัญหาสุขภาพจิตระลอก 2
ซาจิด จาวิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษยอมรับว่าอัตราการเกิดภาวะซึมเศร้าของประชาชนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่านับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่ ซึ่งรัฐบาลเองก็กำลังถูกกดดันให้พัฒนาแผนรับมือกับปัญหานี้อย่างครอบคลุม และรวดเร็วที่สุดก่อนสถานการณ์จะร้ายแรงกว่านี้
เทย์เลอร์ หัวหน้าผู้บริหารของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษ (NHS) ระบุว่า ตอนนี้เรากำลังก้าวไปสู่การอยู่ร่วมกับโรคระบาดอีกระดับ แต่คนจำนวนมากกำลังเจอปัญหาที่น่าห่วงไม่แพ้กันคือปัญหาสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ ซึ่งปัจจุบันบริการต่างๆ ยังไม่พร้อมรับมือมากพอ
จากการวิเคราะห์สถิติพบว่า ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ประชาชนกว่า 10 ล้านคนซึ่งรวมถึงเด็กและวัยรุ่นจะต้องเข้ารับบริการทางสุขภาพจิต จึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกขนานนามว่านี่คือวิกฤตสุขภาพจิตระลอกที่ 2
ขณะที่ ดร.เอเดรียน เจมส์ ประธานราชวิทยาลัยจิตแพทย์เองก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินแผนการเพื่อเตรียมรับมืออย่างจริงจัง “เด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่หลายล้านคนกำลังรอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต และนี่เป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลไม่สามารถละเลยแผนการนี้ได้อีกต่อไป”
ปัจจุบัน อังกฤษและสหราชอาณาจักรกำลังทยอยปลดล็อกมาตรการเข้มงวดต่างๆ แม้ผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะปรับให้ผู้คนอยู่ร่วมกับโรคระบาดได้ เพราะต้องปรับสมดุลระหว่างความปลอดภัยด้านสุขภาพและเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/…/england-second-pandemic…
https://news.google.com/covid19/map?hl=th&mid=/m/02jx1&gl=TH&ceid=TH:th