ยูเครนและรัสเซียเคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในนามของ ‘สหภาพโซเวียต’ แม้ 2 ชาติจะแยกตัวออกจากกัน คนในพื้นที่ก็ยังเปรียบเสมือนญาติพี่น้อง และบางกลุ่มก็มีบรรพบุรุษเชื้อสายเดียวกัน แต่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนกำลังทำให้ครอบครัวผสม 2 เชื้อชาติต้องเป็นศัตรูกันเอง
เมื่อยังเป็นเด็ก Nina Ryakhovskaya ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในเมืองโวลโกกราดของรัสเซีย เธอเติบโตมากับลูกพี่ลูกน้องในบ้านอันแสนอบอุ่นของคุณยาย เมื่อโตขึ้น Nina ได้ย้ายมาอยู่เมืองเคียฟ ประเทศยูเครนกับสามีและลูกชาย แต่ความสัมพันธ์ฉันญาติพี่น้องนั้นยังคงอยู่ในสายเลือด จนกระทั่งกองกำลังของรัสเซียเริ่มบุกเข้ามาในยูเครน
Nina เล่าวว่า เธอโทรไปหาลูกพี่ลูกน้องคนสนิทที่รัสเซีย เล่าให้เขาฟังว่ารัสเซียกำลังโจมตียูเครน แต่ญาติคนสนิทของเธอกลับไม่เชื่อว่าข่าวการบุกรุกนั้นเป็นเรื่องจริง และบอกเพียงว่า ทหารรัสเซียแค่จะไปจัดการกับพวกนาซีเท่านั้น “ความจริงนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเราจะห่างจากไกลตลอดไป” เธอให้สัมภาษณ์กับ The News York Times ระหว่างกำลังหนีไปอีกเมือง “ฉันไม่สามารถให้อภัยพวกเขาได้ ฉันจะไม่ยกโทษให้พวกที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องพวกนี้”
แม้จะ 2 ชาติจะแยกตัวออกจากกันได้ราวๅ 1 ศตวรรษแล้ว แต่ปัจจุบันยังมีชาวยูเครนและชาวรัสเซียจำนวนมากที่เป็นญาติกัน จากผลสำรวจในปี 2011 ชาวยูเครน 49% บอกว่าเขามีญาติเป็นคนรัสเซีย ทำให้ปัญหาเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับครอบครัวของ Nina เพียงคนเดียว ยังมีคนอีกมากมายต้องเจอเรื่องราวที่น่าเจ็บปวดใจไม่ต่างกัน
Zoya วัย 25 ปี ทำงานที่บริษัทเครื่องสำอางในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เธอเป็นลูกสาวของแม่ชาวรัสเซียและพ่อชาวยูเครน เธอเติบโตขึ้นมาใกล้มอสโก แต่คุณยายพูดกับเธอเป็นภาษายูเครน อ่านบทกวีภาษายูเครน และร้องเพลงภาษายูเครน “ความขัดแย้งนี้เหมือนกับตอนที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน” Zoya กล่าว “เราเลือกไม่ได้ เพราะรักทั้งคู่”
ขณะที่ Dan Hubbard วัย 64 ปี ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแมรี วอชิงตัน ในรัฐเวอร์จิเนีย เล่าว่า เขามีลูกน้องอยู่ทั้ง 2 ฝ่ายเช่นกัน “ผมกลัวพวกเขาจะฆ่ากันเอง” Dan เติบโตในสหรัฐฯ แต่แม่ของเขาเป็นชาวรัสเซีย ขณะที่ย่าทวดเป็นคนยูเครน
ทุกวันนี้ญาติบางส่วนของเขาอาศัยอยู่ในกรุงมอสโกของรัสเซีย และบางส่วนอยู่ที่คาร์คิฟ ในยูเครน ชายวัยเกษียณเล่าว่าตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องที่อยู่ในรัสเซียของเขาอายุมากพอจะเข้าเกณฑ์ทหารแล้ว และเขากลัวที่จะได้ยินข่าวว่า ญาติคนหนึ่งของเขาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวสายเลือดเดียวกันต้องตาย
“ผมรู้สึกเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเด็กรัสเซียบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่ออะไรกันแน่ ลูกพี่ลูกน้องของผมอาจกำลังฆ่ากันเอง เพราะคำหลอกลวง” Dan ให้สัมภาษณ์
ประเด็นทหารรัสเซียอาจไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของการโจมตีนั้นน่าสนใจมาก ก่อนหน้านี้ มีคนพบโทรศัพท์ของทหารรัสเซียคนหนึ่งที่ถูกสังหารในสมรภูมิ ด้านในมีข้อความที่คุยกับแม่ ซึ่งเขาบอกกับแม่ว่า สถานการณ์ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด
“แม่ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่ยูเครน มันมีสงครามเกิดขึ้นจริงๆ พวกเรากำลังระเบิดเมืองทั้งหมด เราโจมตีแม้กระทั่งพลเรือน ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกเราว่าชาวยูเครนยินดีต้อนรับเรา และเรามาปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือพวกเขา แต่ทุกคนกลับต่อต้านเราถึงที่สุด เอาตัวเองขวางล้อรถ ไม่เพื่อให้เราผ่านไป พวกเขาเรียกเราว่าฟาสซิสต์ แม่ครับ ตอนนี้มันยากมากจริงๆ”
ไม่ว่าสงครามนี้จะเกิดขึ้นเพื่อเป้าหมายใด และจะจบลงในทิศทางไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ ‘ความสูญเสีย’ สงครามได้พรากชีวิต พรากครอบครัวของผู้บริสุทธิ์ไปมากมาย มีหลายคนต้องจำใจจากคนที่รักโดยไม่มีทางเลือก และทำได้เพียงภาวนาให้ฝันร้ายนี้จบลงเสียที
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2022/03/01/world/europe/ukraine-russia-war-families.html
#Brief #TheMATTER