โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียในยูเครน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปเกิดเหตุเพลิงไหม้ หลังโดนกองทัพรัสเซียระดมยิงใส่ สร้างความกังวลต่อทั่วโลก
อันดรี ทุซ โฆษกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อยูเครนว่า รัสเซียได้ระดมยิงกระสุนเข้ามาบริเวณที่ตั้งโรงไฟฟ้า และทำให้หนึ่งในหกของเครื่องปฏิกรณ์ที่อยู่ระหว่างปรับปรุงโดนไฟเผา แม้มันจะไม่ทำงาน แต่ก็ยังมีเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หลงเหลืออยู่ด้านใน
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียเป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีเครื่องปฏิกรณ์ 6 เครื่องจาก 15 เครื่องทั่วประเทศ และเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าหลักของยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้บุกรุกเข้าไปในชุมชนและบ้านเรือนประชาชนยูเครน เพื่อพยายามเข้ายึดโรงไฟฟ้าดังกล่าว ก่อนจะอ้างว่าทำสำเร็จในเวลาต่อมา ก่อนจะมีรายงานเพลิงไหม้ในเช้าวันนี้ (ตามเวลาไทย)
อย่างไรก็ตาม สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ตรวจพบระดับการเปลี่ยนแปลงของรังสี แต่เรียกร้องให้ยุติการใช้กำลัง และเตือนว่าอาจเกิดอันตรายร้ายแรงหากเครื่องปฏิกรณ์ระเบิด
สำหรับสถานการณ์กู้ภัยในช่วงแรก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากเกรงอันตรายจากการโดนยิง ขณะที่ ดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนออกมาทวีตเรียกร้องให้รัสเซียหยุดใช้กำลังโดยด่วน และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิง
อัพเดตเมื่อ 9.30 น. ตามรายงานของสำนักข่าว Agence France-Presse ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าได้รับการยืนยันความปลอดภัยแล้ว หลังก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือกับ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีดังกล่าว
การโจมตีครั้งล่าสุดสร้างความกังวลให้กับคนทั่วโลก เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียนั่นหมายถึงส่งผลต่อชีวิตผู้คนอีกนับไม่ถ้วน ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับโรงไฟฟ้านิวเคลียเชอร์โนบิลในปี 1986 ซึ่งเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลก และหากอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นกับซาปอริซเซีย คูเลบาบอกว่ามันอาจจะรุนแรงกว่าเชอร์โนบิลเลยทีเดียวถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
แม้จะมีการยืนยันความปลอดภัยเบื้องต้นแล้ว แต่หลังจากนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกันต่อไปว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบใหญ่ต่อคนทั่วโลก
* อัพเดตล่าสุด 10.19 น. สำนักข่าว CNN รายงานอ้างถึง อันดรี ทุซ โฆษกโรงไฟฟ้า เปิดเผยว่า กองกำลังทั้งสองฝ่ายได้หยุดยิงที่โรงไฟฟ้าแล้ว และระดับรังสีก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยังไม่มีความเสียหายร้ายแรง แต่ขณะนี้ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียง 1 ใน 6 เครื่อง ที่ยังทำงานอยู่
อ้างอิงจาก
https://www.independent.co.uk/news/world/russia-ukraine-nuclear-plant-zaporizhzhia-b2028294.html
https://www.cbsnews.com/news/ukraine-nuclear-power-plant-fire-russian-shelling