“เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด”
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ขณะนั้นระบุถึงภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เหตุวิสามัญฆาตกรรม ที่กลายเป็นคดีดังซึ่งคนยังตั้งคำถามถึงทุกวันนี้
เช่นเดียวกับ พล.ท. วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ขณะนั้น ที่พูดทำนองว่าได้ดูภาพจาก CCTV เช่นกัน พร้อมชื่นชมทหารที่ลั่นไกสังหาร “เพื่อป้องกันตัว” และบอกว่า หากเป็นตนคงกดออโต้ไปแล้ว
ภาพ CCTV ที่เรากำลังพูดถึง คือเหตุการณ์ที่ ‘ชัยภูมิ ป่าแส’ หรือจะอุ๊ เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่ ถูกทหารประจำด่านตรวจบ้านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ยิงจนเสียชีวิต ระหว่างเรียกตรวจยาเสพติดในรถยนต์ที่เขาขับมา ช่วงสายของวันที่ 17 มี.ค.2560
ช่วงแรกมีความพยายามให้ข่าวว่า ชัยภูมิต่อสู้ขัดขืนจึงถูกทหารยิง ก่อนจะปรากฎภาพนิ่งว่า เขายอมให้ตรวจสอบรถยนต์โดยดี ที่อ้างว่าพกระเบิดมาด้วยเตรียมจะขว้างก็ขัดกับชุดที่ชัยภูมิใส่ ณ วันนั้น ที่เป็นกางเกงขาสั้นยากจะซุกซ่อนลูกระเบิดไว้ ไม่รวมถึงข้อมูลจากพยานในบริเวณใกล้เคียงที่ระบุว่า เห็นคนถูกซ้อม ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น
ภาพจาก CCTV ที่มีอยู่หลายตัวบริเวณที่เกิดเหตุจะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยได้ว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง ณ วันนั้น แต่ผ่านมาหลายปีแล้ว ปรากฎว่าสิ่งที่อดีต ผบ.ทบ.และแม่ทัพภาคที่ 3 เคยเห็น กลับไม่เคยมีใครได้ดูอีกเลย แม้กระทั่งการพิจารณาคดีในชั้นศาล
ครอบครัวของชัยภูมิ พยายามฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกองทัพบกต่อศาลแพ่ง แต่ล่าสุดต้นปี 2565 ศาลอุทธรณ์พิพากษาตามศาลชั้นต้นยกฟ้องคดีนี้ ขณะที่ทีมทนายความระบุว่าจะยื่นฎีกาต่อไป
นี่เป็นอีกหนึ่งคดีที่หลายๆ ฝ่ายจับตา ว่าความจริงเป็นเช่นไร เหตุใดภาพจาก CCTV ที่มีนายทหารระดับสูงเคยได้ดูถึงหายไป ชีวิตที่หายไปจะต้องมีใครรับผิดชอบหรือไม่
#Brief #TheMATTER