การบุลลี่ไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ ทีมวิจัยจากกลุ่มประเทศนอร์ดิกศึกษาต้นเหตุและปัญหาของการกลั่นแกล้งภายในโรงเรียนอย่างละเอียด ก่อนจะพบว่า วิธีที่จะหยุดพฤติกรรมเลวร้ายเริ่มต้นที่การสร้างสภาพแวดล้อมให้ไม่เอื้ออำนวยต่อการกลั่นแกล้ง และการปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้เด็กๆ
Dan Olweus นักจิตวิทยาชาวสวีเดน-นอร์เวย์ และทีมวิจัยได้ทำโครงการ Olweus เพื่อหาทางป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน โดยเริ่มต้นที่ให้บุคลากร ‘ทุกคน’ ในไม่ว่าจะเป็นครู ภารโรง คนขับรถบัส หรือผู้ดูแลโรงเรียนเข้าร่วมฝึกอบรวม ทำความเข้าใจเข้อมูลพื้นฐานการบุลลี่ และในระหว่างการอบรมบุคลากร ทางโครงการก็ให้นักเรียนในโรงเรียนตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับปัญหา เพื่อจะทราบถึงสาเหตุและต้นตอที่แท้จริง
เมื่อสร้างเกราะป้องกันการบุลลี่ขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนแบบบุคลากรแล้ว โครงการ Olweus แนะนำให้โรงเรียนเริ่มกำหนดกฎระเบียบควบคุมพฤติกรรมการกลั่นแกล้งที่ชัดเจน รวมถึงบทลงโทษที่เด็กทุกคนรับรู้ และไม่มีข้อโต้แย้ง ขณะเดียวกับบุคลากรของโรงเรียนที่ผ่านมาการอบรมมาแล้วก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่เพิกเฉยหรือมองข้ามเหตุรุนแรง และหมั่นสำรวจ ‘จุดอันตราย’ ทั่วโรงเรียน ที่อาจเป็นศูนย์รวมตัวการกลั่นแกล้ง
ส่วนนักเรียนที่มีสังคมระดับห้องเรียน ก็ควรจัดประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการรังแกกัน และวิธีช่วยเหลือเหยื่อเป็นประจำ เมื่อมีการทำอย่างนี้ซ้ำๆ มันจะเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมต่อต้านการกลั่นแกล้งให้เด็กและโรงเรียนไปในตัว และทำให้นักเรียนที่ยังมีพฤติกรรมบุลลี่ผู้อื่นเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้อีกต่อไป และพฤติกรรมเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกกดและหายไปเอง
Susan Limber ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาพัฒนาการที่ Clemson University ในเซาท์แคโรไลนาหนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการนี้ได้นำแนวทางดังกล่าวไปทดสอบกับโรงเรียนกว่า 200 แห่งในเพนซิลเวเนีย และพบว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มทดสอบ อัตราการกลั่นแกล้งในโรงเรียนลดน้อยลงถึง 2,000 ครั้ง ที่น่าสนใจกว่านั้นคือทัศนคติและความคิดของนักเรียนต่อปัญหาการบุลลี่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเริ่มเอาใจใส่เหยื่อมากขึ้น
แม้โครงการนี้จะพุ่งเป้าไปที่การจัดการภายในโรงเรียนเป็นหลัก แต่การแก้ปัญหาการกลั่นแกล้งให้ครอบคลุมนั้นต้องเริ่มจากบ้านของนักเรียนแต่ละคนด้วย Limber บอกว่าพ่อแม่และผู้ปกครองต้องคอยถามและสอนลูกเกี่ยวกับปัญหาการบุลลี่อยู่เสมอ และจะดีมากหากผู้ปกครองทำงานร่วมกับโรงเรียนเพื่อหยุดปัญหานี้
ปัญหาการกลั่นแกล้งอาจเป็นเรื่องของเด็กๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ มีงานวิจัยระบุว่าเหยื่อที่โดนรังแกตั้งแต่เด็กจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปนานกว่า 20 ปี อีกทั้งรายงานล่าสุดใน Harvard Review of Psychiatry ยังพบว่าเด็กผู้หญิงที่ถูกรังแก มีโอกาสเป็นโรคตื่นตระหนกเมื่อโตขึ้นถึง 27 เท่า ส่วนเด็กผู้ชายมีโอกาสจะคิดทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้นถึง 18 เท่าเลยทีเดียว
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/future/article/20220307-the-best-way-to-stop-bullying
https://psycnet.apa.org/record/2010-06797-027
#Brief #TheMATTER