หลังจากที่รัสเซียจำกัดการเข้าถึงทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมมาก่อนหน้านี้ เมื่อวานนี้ (21 มี.ค. 2565) ศาลรัสเซียได้มีคำสั่งตัดสินแล้วว่า เมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม จัดเป็นองค์กร ‘หัวรุนแรง’ (extremist) ส่งผลให้ถูกแบนจากการดำเนินการในรัสเซีย
คำสั่งดังกล่าวเป็นของศาลเขตทเวอร์ซโกย (Tverskoy) ในกรุงมอสโก เกิดขึ้นหลังจากที่อัยการยื่นฟ้องให้สั่งแบนกิจกรรมของเมตาในรัสเซีย โดยศาลได้ยืนยันข้อกล่าวหาของอัยการว่า บริษัทเมินเฉยต่อการปลุกปั่น ‘ความเกลียดกลัวรัสเซีย’ (Russophobia) ท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครน
ยังไม่ชัดเจนว่าผลกระทบของคำสั่งนี้จะมีอะไรบ้าง และแม้ทนายความของฝ่ายยื่นฟ้องจะระบุว่า ปัจเจกจะไม่ต้องเผชิญโทษหากใช้งานเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่ Net Freedoms Project องค์กรด้านสิทธิทางกฎหมายในรัสเซีย ก็วิเคราะห์ไว้ว่า คำสั่งนี้จะทำให้คนที่ใช้งานเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในที่สาธารณะอาจต้องเจอโทษจำคุกถึง 15 วัน
นอกจากนี้ การซื้อโฆษณาในพื้นที่ของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม รวมถึงการซื้อหุ้นของเมตา อาจจะถูกตีความได้ว่าเป็นการ ‘ช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรหัวรุนแรง’ ซึ่งก็จะทำให้กลายเป็นคดีอาชญากรรมและมีโทษจำคุกได้เช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ เมตาได้ประกาศผ่อนปรนกฎการใช้งาน อนุญาตให้ผู้ใช้โพสต์ปลุกระดมความรุนแรงต่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และทหารรัสเซียในยูเครนได้ชั่วคราวในบางประเทศ สร้างความไม่พอใจกับทางการรัสเซีย ส่งผลให้มีการนำคดีขึ้นสู่ศาล จนออกมาเป็นคำสั่งดังกล่าว
ส่วนการตัดสินว่าเป็นองค์กร ‘หัวรุนแรง’ นั้น เมตาถือว่าเป็นองค์กรเชิงพาณิชย์องค์กรแรกที่โดนรัสเซียแปะป้ายแบบนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้มักจะเป็น NGO และกลุ่มทางศาสนาหรือการเมืองที่โดน เช่น ตาลีบัน กลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) พยานพระยะโฮวา (Jehova’s Witnesses) และองค์กรตรวจสอบคอรัปชั่นที่ชื่อ Anti-Corruption Foundation เป็นต้น
อ้างอิงจาก
https://www.aljazeera.com/economy/2022/3/21/russia-labels-facebook-parent-company-meta-extremist