บางครั้งต้นตอของการออกกฎหมายก็อาจมาจาก ‘ปลาส้ม’ หรือแซลมอน… รัฐสภาไต้หวันกำลังถกเถียงกันถึงการแก้กฎหมายที่ห้ามไม่ให้บุคคลเปลี่ยนชื่อเกิน 3 ครั้ง หลังจากระบบราชการของไต้หวันต้องแบกภาระ เพราะมีคนจำนวนมากเปลี่ยนชื่อให้เกี่ยวกับแซลมอน เพื่อกินบุฟเฟ่ต์ฟรี
เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ร้านซูชิโระได้เปิดตัวแคมเปญกินฟรีทุกคนบนโต๊ะ สำหรับลูกค้าคนใดก็ตามที่ในชื่อมีคำว่า ‘แซลมอน’ เขียนอยู่ (gui yu ในภาษาจีน) ซึ่งแคมเปญดังกล่าวทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ‘ความโกลาหลจากแซลมอน’ กล่าวคือมีคนมากถึง 331 คนที่ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อตัวเองให้มีคำว่าแซลมอนอยู่ในชื่อเพื่อกินซูชิฟรี ซึ่งชื่อที่พวกเขาเปลี่ยนก็เช่น แซลมอนแห่งความฝัน (Salmon Dream) หรือแซลมอนเท้าไฟ (Dancing Salmon)
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ที่เปลี่ยนชื่อบางคนเริ่มหาประโยชน์จากชื่อที่พวกเขาเปลี่ยน โดยบางคนหันมาเปิดแอคเคาท์โซเชียล มีเดียของตัวเอง ขณะที่บางคนเปิดธุรกิจเล็กๆ พาคนรู้จักไปกินอาหารฟรีจากร้านดังกล่าว
ภายหลังที่ร้านซูชิโระยกเลิกแคมเปญดังกล่าว คนส่วนใหญ่ก็เริ่มเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อเดิม ทำให้เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลไต้หวันออกมาวิจารณ์ร้านซูชิโระ และเรียกร้องให้ผู้คนมี “เหตุผล” เสียบ้าง โดยระบุว่าการเปลี่ยนชื่อแบบนี้ทำให้เกิดภาระกับระบบราชการโดยไม่จำเป็น
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา รัฐสภาไต้หวันถกเถียงกันอย่างหนัก ถึงการยกเลิกกฎหมายควบคุมไม่ให้ประชาชนเปลี่ยนชื่อเกิน 3 ครั้ง ซึ่งทั้ง ส.ส. ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างหน้าดำคร่ำเคร่ง แต่ก็เห็นต่างกันออกไป
“หลังจากภาวะแซลมอนโกลาหล บางคนเปลี่ยนชื่อตัวครบ 3 ครั้งแล้ว และตอนนี้พวกเขาไม่มีวิธีเปลี่ยนชื่อกลับมาให้เหมือนเดิม” Chiu Hsien-chih ส.ส. จากพรรคพลังใหม่กล่าว เขายังสนับสนุนให้ลดค่าธรรมเนียมและระยะเวลาระหว่างเปลี่ยนชื่อด้วย เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในชื่อ ‘แซลมอน’ และป้องกันไม่ให้ภาวะโกลาหลจากแซลมอนเกิดขึ้นซ้ำสอง
อย่างไรก็ตาม ส.ส. บางคนจากฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย และเสนอให้การเปลี่ยนชื่อยากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
ขณะที่ในโลกโซเชียล มีเดียของไต้หวันมองว่าการดีเบตในรัฐสภาครั้งนี้เป็นเรื่องไร้สาระ โดยบางส่วนมองว่า ผู้ที่บรรลุนิติภาวะควรมีความรับผิดชอบเสียบ้าง และสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังทำให้รัฐสภาเสียเวลาอันมีค่าโดยใช่เหตุ
“เป็นไปได้อย่างไรที่เราจะออกกฎหมายเพื่อคนที่ขายตัวเองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว?” บางคอมเมนท์จากโซเชียล มีเดียในไต้หวัน ขณะที่อีกคนกล่าวว่า “มีความรับผิดชอบในชีวิตตัวเองซะบ้าง ไอแซลมอน!”
อ้างอิง:
https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4176879