เมื่อพูดถึง ‘ลัทธิซาตาน’ หรือผู้บูชาปฏิปักษ์ของพระเยซูคริสต์ ศาสดาของคริสต์ศาสนา เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีคำถามในใจมากมายว่ากลุ่มนี้เป็นอย่างไร มีความเชื่ออย่างไร มีพิธีกรรมที่แปลกประหลาด บูชาเลือด กรีดแขน สนับสนุนความรุนแรงหรือเปล่า ด้วยความสงสัยเต็มกระเป๋า The MATTER ได้ทักหาเพจ The Satanic of Thailand เพื่อพูดคุยกับพวกเขา
“กลุ่มที่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกซาตานิกทั่วโลก จะไม่สนับสนุนการบูชายัญ และความรุนแรงทุกรูปแบบ” แอดมินเพจซาตานิกไทยแลนด์ (The Satanic of Thailand) บอกกับเราผ่านช่องข้อความในเฟซบุ๊ก และเน้นต่อว่าพวกเขาเป็นกลุ่ม เหตุผลนิยม, มนุษยนิยม และที่สำคัญเป็นอเทวนิยม กล่าวคือเป็นกลุ่มที่เชื่อในเหตุผลของมนุษย์ และไม่เชื่อในการดำรงอยู่ของสิ่งเหนือธรรมชาติ
พวกเขาอธิบายว่าต้องการเรียกร้องให้มนุษย์เชื่อในสัญชาตญาณและกฎของธรรมชาติ แอดมิน AtheistSatanic กล่าวว่า “(มนุษย์) ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ตัดสินใจด้วยตนเอง โดยปราศจากการชี้นำโดยพระเจ้า”
เมื่อถามถึงโพสต์รูปปั้นบาโฟเมตและน้ำแดงบนฐาน ซึ่งมีการแชร์กันไปมากกว่า 5,000 ครั้ง ทางแอดมินตอบกลับมาเชิงขบขันว่า ทางทีมแอดมินไม่ได้เป็นผู้ตั้งรูปปั้นดังกล่าว แต่เป็นคนอื่นที่ชื่นชอบในแนวคิดนี้เช่นกันเป็นคนนำไปตั้ง ส่วนเรื่องที่ชาวเน็ตแซวกันว่า ทำไมถึงมีน้ำแดง เขาขำต่อและกล่าวยืนยันอีกครั้งว่าพวกเขาคือกลุ่มอเทวนิยม ส่วนที่มีน้ำแดงไปตั้งเป็นเพียงการแซวกันเท่านั้น
“เป็นการผสมผสานนิสัยของคนที่งมงาย เช่น เจอรูปปั้นเสือตรงป้ายรถเมล์ คนซื้อน้ำแดงไปนั่งกินรอรถ แล้วเผลอวางไว้ แล้วคนเขานึกว่าไหว้เสือมีองค์ แวะมาขอหวย ถวายน้ำแดง ผูกผ้าสามสี”
สำหรับสาเหตุที่ใช้ซาตานเป็นสัญลักษณ์ เพราะต้องการ “เสียดสีศาสนาตรงข้าม” หมายถึงแนวคิดคริสต์ศาสนา คำอธิบายนี้จะเห็นชัดมากขึ้นในกลุ่มอย่างลัทธิวิหารซาตาน (The Satanic Temple ได้รับการยอมรับให้เป็นศาสนาหนึ่งในสหรัฐฯ ในปี 2012) ซึ่งนับถือซาตานเช่นกัน แต่สมาชิกส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา พวกเขากล่าวไว้ในสารคดี “Hail Satan ?” ว่า ทางกลุ่มมีภารกิจเพื่อ “สกัดกั้นอิทธิพลทางการเมืองของคริสต์ศาสนาในสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังคืบคลานเข้าแทรกแซงก้าวก่ายชีวิตของชาวอเมริกัน”
ขณะที่ทางด้านฝั่งไทย ทางเพจซาตานิกเขียนไว้ในโพสต์ปักหมุดถึงความเชื่อที่สัมพันธ์กับรูปสลักบาโฟเมทว่า “ซาตานิกไม่ได้นับถือบาโฟเมททุกคน หรือหมู่เทพ เพราะซาตานิกบางกลุ่มเชื่อว่าเป็นแค่สัญลักษณ์ของอำนาจ ความรู้ การต่อต้านสิ่งงมงายเพื่อเสรีภาพความเชื่อต่างๆ ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ และการกระทำที่ตรงกันข้าม สัญชาตญาณและการปลดปล่อยตัวเอง”
“แม้ซาตานิกจะไม่ได้มีกฏอะไรที่ตายตัว แต่ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามใจชอบ ซาตานิกเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนรู้ผิดชอบด้วยตัวเอง และอย่าเอาซาตานิกไปอ้างเกี่ยวข้องกับการกระทำของตัวเองเพราะกฏของซาตานิก ตั้งอยู่บน ความถูกต้อง และอยู่บนพื้นฐานของ Humanism” พวกเขาระบุไว้ในเพจ
พวกเขายกตัวอย่างการสนับสนุนแนวคิดมนุษยนิยม เช่น ความร่วมมือระหว่างกลุ่มลัทธิวิหารซาตาน (The Satanic Temple) กับ สมาคมมนุษยนิยมอเมริกัน (American Humanist Association) ซึ่งร่วมมือกันผลักดันให้เกิดกฎหมายทำแท้งในสหรัฐฯ โดยมีทั้งการขึ้นศาล จัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจ รวมถึงเผยแพร่แนวคิดเพื่อผลักดันให้กฎหมายทำแท้งได้รับการยอมรับในสหรัฐฯ
ทางเพจซาตานิกอธิบาย 3 สายใหญ่ๆ ของผู้นับถือซาตาน โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มผู้นับถือซาตานสายสุดโต่ง นิยมความรุนแรง ต่อต้านอำนาจรัฐ อาทิ ‘The Order of Nine Angel’
กลุ่มที่สอง เชื่อในพลังเหนือธรรมชาติและมีพิธีกรรมเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่ม “ศาสนจักรแห่งซาตาน (The Church of Satan)” ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1966 โดย แอนทัน แลวี (Anton LaVey)
อย่างไรก็ตาม ทางเพจยอมรับว่าในปัจจุบันยังมีผู้นับถือซาตานบางกลุ่มที่ยังเชื่อเรื่องบูชายัญ ความรุนแรง และการใช้เลือด ซึ่งเป็นกลุ่มสาย “ศาสนจักรแห่งซาตาน (The Church of Satan)” ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1966 โดย แอนทัน แลวี (Anton LaVey) ทางเพจซาตานิกอธิบาย 2 สายใหญ่ๆ ของผู้นับถือซาตานว่า
สายแรกคือกลุ่มที่ผู้นับถือมีลักษณะ “มีทั้งทำพิธีกรรม, การเล่นแร่แปรธาตุ, ปีศาจวิทยา พวกนี้ก็จะมีการทำพิธี มีบทสวดบาลี/ สันสกฤตเหมือนกับศาสนาทั่วๆไป เชื่อในเรื่องลี้ลับ พลังเหนือธรรมชาติ”
ขณะที่อีกสายหนึ่งใช้ซาตานเสมือนสัญลักษณ์ในการเสียดสีและส่งเสียง ต่อต้านกฎหมายที่มีฐานคิดจากศาสนา เรียกร้องเสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นพวกเหตุผลนิยม ไม่เชื่อเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งทางเพจซาตานิกไทยแลนด์ก็ระบุว่าพวกเขาเองก็อยู่ในกลุ่มหลังนี้
“อีกกลุ่มที่ไม่ได้นับถือ แต่ใช้ซาตานเป็นสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องเสรีภาพ และ แก้ไขข้อกฎหมายที่ใช้ศาสนาเป็นตัวกำหนด กลุ่มนี้จะไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ นอกจากวิทยาศาสตร์ และสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นกลุ่มเหตุผลนิยม”
พวกเขาระบุว่า แนวคิดศาสนาได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลก ทั้งในแง่การออกกฎหมาย ตลอดจนสังคม พวกเขากล่าวว่า “หลักๆ เลยคือข้อบังคับของกฎหมายในประเทศ และการคุกคามความเชื่อของผู้อื่น มันงมงาย บางคนคลั่งศาสนามากๆ ก็ใช้ความรุนแรงต่อคนอื่น เขาเผยแพร่อะไรเชื่อหมดจนไม่คิดหาเหตุผลตาม”
แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าการนับถือศาสนาก็ไม่ได้เลวร้ายเสียหมด “ข้อดีของการมีศาสนามันก็มี เช่น ยึดเหนี่ยวจิตใจ ความสบายใจ หาทางออกของชีวิต คำสอนปรัชญาการใช้ชีวิต”
ซึ่งพวกเขาระบุไว้ในโพสต์ปักหมุดของเพจเช่นกันว่า “ซาตานิกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาสนาใดๆทั้งสิ้น และซาตานิกไม่ได้ห้ามหรือลบหลู่ ความเชื่อส่วนบุคคล อย่าเอาซาตานิกไปเกี่ยวข้องกับหรือเปรียบเทียบกับศาสนาอื่น”
กล่าวสรุปได้ว่ากลุ่มนิยมซาตานในประเทศไทย มีความเชื่ออยู่บนฐานมนุษยนิยม เชื่อในหลักเหตุและผล และไม่เชื่อในการดำรงอยู่ของพระเจ้าหรือสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ใดๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ปิดกั้นในการเคารพหรือศึกษาศาสนาเช่นกัน
“ซาตานจงเจริญ (Hail Satan)” แอดมิน AtheistSatanic พิมพ์ทิ้งท้ายแก่ The MATTER
สำหรับคนที่สนใจแนวคิดของพวกเขา สามารถเข้าไปตามอ่านบทความได้ที่:
https://web.facebook.com/siamsatanic666/
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/thai/international-49474926