ถือว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่อีกครั้งของวงการการแพทย์ หลังนักวิจัยสหรัฐฯ ทดลองให้ยารักษามะเร็งลำไส้ระยะ 2 และ 3 กับผู้ป่วยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 14 คน และพบว่าผู้ป่วยทั้งหมดมีอัตราการทุเลาของโรคแบบ 100%
งานวิจัยนี้เป็นผลงานของทีมวิจัยจากศูนย์มะเร็ง เม็มโมเรียล สโลน เคตเทอริง (Memorial Sloan Kettering Cancer Center) ที่นครนิวยอร์ก นำโดย แอนเดรีย เซอร์เซ็ก อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา และได้ตีพิมพ์ในวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 มิ.ย. 2565)
“มันคุ้มค่ามากๆ ที่ได้เห็นน้ำตาแห่งความดีใจ และอีเมลที่ผู้ป่วยในงานวิจัยนี้ส่งมาอย่างปลื้มปริ่ม หลังรักษาสำเร็จและพบว่า ‘พระเจ้า ฉันมีโอกาสได้มีร่างกายที่ทำงานอย่างปกติ จากที่เคยกลัวว่าจะต้องสูญเสียไปกับการฉายรังสีหรือการผ่าตัด” เซอร์เซ็ก แพทย์หัวหน้าทีมวิจัย กล่าว
หลุยส์ ไดแอซ จูเนียร์ แพทย์ที่ร่วมทำการวิจัยอีกคนหนึ่ง ก็ได้ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า “ผมคิดว่า นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมะเร็งเลย”
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่จะอยู่ในการทดลองทางการแพทย์ครั้งนี้ ต้องเป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ระยะที่ 2 หรือ 3 ที่มีความผิดปกติในยืนแบบเฉพาะที่เรียกว่า mismatch repair-deficient (MMRd) หรือ microsatellite instability (MSI)
โดยนักวิจัยจะให้ยาที่เรียกว่า ‘ดอสตาร์ลิแมบ’ (Dostarlimab) ซึ่งเป็นยาที่เพิ่งอกมาไม่นานนี้ ผลิตโดยบริษัท GlaxoSmithKline โดยจะให้ยากับผู้ป่วยทุกๆ 3 สัปดาห์ เป็นเวลา 6 เดือน ด้วยค่าใช้จ่าย 11,000 ดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 380,000 บาทต่อโดส
อย่างไรก็ดี นักวิจัยก็ยังอยากให้ระวังกับผลการวิจัยครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างยังถือว่ามีจำนวนน้อย และถึงแม้จะหายแบบ 100% แต่ก็ยังอยากให้เรียกว่า ‘การทุเลาของโรค’ (remission) มากกว่าจะเป็น ‘หายขาด’ (cure) เนื่องจากต้องติดตามต่อไปว่าโรคจะกลับมาในอนาคตหรือไม่
แต่สุดท้ายแล้ว ทีมนักวิจัยก็บอกว่ามีความหวังกับผลลัพธ์ที่ได้มา ไดแอซให้ความเห็นว่า งานวิจัยครั้งนี้ถือว่าจะพลิกวิธีรักษาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ในแบบเดียวกับกลุ่มตัวอย่างไปเลย
อ้างอิงจาก
https://www.washingtonpost.com/health/2022/06/08/cancer-drug-trial/
https://www.mskcc.org/news/rectal-cancer-disappears-after-experimental-use-immunotherapy