COVID-19 ยังไม่ทันหาย ฝีดาษลิงยังไม่สงบ ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จีนเพิ่งยืนยันการค้นพบไวรัส ‘เลย์วี’ (LayV) ไวรัสชนิดใหม่ที่คาดว่ามีต้นตอมาจากหนูผี (Shrews) โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 35 ราย และยังไม่พบผู้เสียชีวิต
วานนี้ (9 ส.ค. 65) สำนักข่าว Global Times รายงานว่า คณะนักวิทยาศาสตร์จากจีนและสิงคโปรค้นพบเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ลางยาเฮนิปาห์ (Langya henipavirus) หรือ เลย์วี (LayV) ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับไวรัสนิปาห์ (Nipah) โดยพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่มณฑลซานตงตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. ปี 62 ก่อนจะพบผู้ติดเชื้อ 14 รายในเวลาต่อมา แต่ก็ต้องหยุดวิจัยไปเพราะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 35 รายแล้วในมณฑลซานตงและมณฑลเฮอนาน เบื้องต้นพบว่าผู้ติดเชื้อมีอาการไข้ เหนื่อยล้า ไอ สูญเสียความอยากอาหาร ปวดศีรษะ อาเจียน มีอาการผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด และมีสัญญาณความเสียหายของตับและไต แต่ก็ยังไม่มีใครเสียชีวิตจากโรคนี้
สำหรับการติดเชื้อ ทางแพทย์ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่าไวรัสจะติดเชื้อจากคนสู่คนได้ แต่ระบุว่าผู้ติดเชื้อบางส่วนมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ และยังคาดการณ์ด้วยว่าต้นตอของไวรัสนี้อาจมาจากหนูผี (Shrews) สัตว์ฟันแทะที่มีขนาดเล็ก โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นชาวนาและเกษตรกร ในขณะที่บางส่วนเป็นพนักงานในโรงงาน
ทั้งนี้ WHO ระบุไว้ว่า สัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสนิปาห์จะมีอาการรุนแรง และหากคนติดเชื้อก็อาจมีอัตราเสียชีวิตอยู่ที่ 40-75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงกว่าการติดเชื้อ COVID-19 และปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาโดยเฉพาะ
การค้นพบนี้ได้รับการตีพิมพ์ผ่านวารสารวิทยาศาสตร์ New England Journal of Medicine ซึ่งหวัง หลินฟา (Wang Linfa) อาจารย์จากโรงเรียนแพทย์ Duke-NUS ที่สิงคโปร์ ผู้มีส่วนร่วมกับการตีพิมพ์บทความนี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Global Times ถึงกรณีผู้ติดเชื้อเลย์วีว่า สถานการณ์ตอนนี้ “ไม่รุนแรงมาก” และ “ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล”
อ้างอิงจาก
https://www.globaltimes.cn/page/202208/1272556.shtml
https://www.independent.co.uk/asia/china/new-virus-in-china-2022-langya-shrews-b2141974.html