เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา NASA เพิ่งได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นใหม่ จากการวิเคราะห์ข้อมูล 25 ปี ของน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกา โดยใช้ภาพจากดาวเทียมของสหรัฐฯ และยุโรปทั้งหมด 7 ดวง – และผลการค้นพบที่ได้ ก็เป็นภาพที่ไม่สู้ดีเท่าไรนัก
ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เผยแพร่ในวารสาร Nature ทีมนักวิจัยของ NASA ค้นพบว่า ภูเขาน้ำแข็งถล่มแยกจากขอบแผ่นน้ำแข็งเร็วเกินกว่าที่น้ำแข็งจะคืนสภาพได้ตามธรรมชาติ ซึ่งข้อมูลที่ได้ชี้ว่า ปริมาณน้ำแข็งละลายนับตั้งแต่ปี 1997 มีมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า จากเดิม 6 ล้านล้านเมตริกตัน ก็เพิ่มเป็น 12 ล้านล้านเมตริกตัน
“ขอบแอนตาร์กติกากำลังถล่ม” แชด กรีน นักวิทยาศาสตร์หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว และมากไปกว่านั้น เมื่อหิ้งน้ำแข็งมีน้อยลงและอ่อนแอลง ธารน้ำแข็งในทวีปก็จะยิ่งไหลลงอย่างรวดเร็ว และไปเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกด้วย
กล่าวอีกอย่างคือ หิ้งน้ำแข็งจะทำหน้าที่เป็นปราการป้องกันไม่ให้ธารน้ำแข็งไหลลงทะเล ซึ่งจะไปเพิ่มระดับน้ำทะเล โดยหิ้งน้ำแข็งเหล่านี้จะใช้เวลาหลายปีในการก่อตัว และเมื่อมันมีความคงที่ วงจรการแตกตัวและคืนสภาพของมันก็จะไม่ทำให้ขนาดของมันแตกต่างไปมากนักในแต่ละช่วงเวลา
แต่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นก็ไปทำให้หิ้งน้ำแข็งอ่อนแอลงจากข้างใต้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้มากในฝั่งตะวันตกของแอนตาร์กติกา แต่ในฝั่งตะวันออกที่เคยคิดกันว่าแข็งแรงมากกว่า กรีนก็บอกว่า ยัง ‘เสีย’ มากกว่า ‘เพิ่ม’ อยู่ดี
การถล่มแยกตัวที่มีอัตราเร็วกว่าการคืนสภาพตามธรรมชาตินี้ นับว่ารวดเร็วถึงขนาดที่นักวิจัยคิดว่า แอนตาร์กติกาคงไม่สามารถคืนสภาพกลับมาเป็นแบบในช่วงปี 2000 ได้ทันก่อนสิ้นสุดศตวรรษนี้อีกแล้ว
มิหนำซ้ำ NASA ยังเตือนด้วยว่า ในอีก 10-20 ข้างหน้า ก็ดูเหมือนว่ายังมีเหตุการณ์น้ำแข็งถล่มครั้งใหญ่รออยู่อีกด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.nasa.gov/feature/jpl/nasa-studies-find-previously-unknown-loss-of-antarctic-ice
https://time.com/6205753/antarctica-ice-melt-doubles-nasa/
https://edition.cnn.com/2022/08/11/world/antarctica-ice-sheet-crumbling-climate-intl