ทารก 3 คน ได้ลืมตาดูโลก หลังจากที่แพทย์สหรัฐฯ ได้รักษาอาการบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง โดยใช้แผ่นแปะเต็มเซลล์มาช่วยในการรักษา ซึ่งจะถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโลก และเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยรักษาคนคนอื่นๆ ที่มีอาการบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง หรือโรคสไปนา ไบฟิดา
โรคสไปนา ไบฟิดา (Spina Bifida) เป็นความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดที่กระดูกสันหลัง ไขสันหลัง เนื่องจากการพัฒนาอย่างไม่สมบูรณ์ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา บางครั้งกระดูกสันหลังคดอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ตลอดชีวิต รวมถึงปัญหาการเคลื่อนไหวเนื่องจากความเสียหายของเส้นประสาท หรือในกรณีที่รุนแรง หากไม่มีการปิดไขสันหลังที่เปิดอยู่ภายในก่อนหรือหลังคลอดได้ไม่นาน ก็อาจทำให้ขาของเด็กที่เกิดออกมาเป็นอัมพาตได้
โดยปกติ ศัลยแพทย์จะใช้การผ่าตัดรูกุญแจกับทารกในครรภ์เพื่อแก้ไขช่องว่างไขสันหลัง แต่ล่าสุด ทีมแพทย์ของสหรัฐฯ ได้ก้าวไปอีกขั้น โดยติดตั้งการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อเชื่อมการซ่อมแซม เป็นแผ่นแปะที่มีเซลล์ที่ยังไม่โตเต็มที่เรียกว่า ‘สเต็มเซลล์’ ซึ่งสามารถเติบโตไปพร้อมกับทารกได้
ทางทีมแพทย์จะติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดไปอีกอย่างน้อย 6 ปี เพื่อยืนยันว่า การรักษานี้สำเร็จผลดีหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางทีมได้ทดลองกับสัตว์ไปแล้ว ทั้งลูกแกะ และลูกสุนัข
ขณะที่ ‘ร็อบบี้ (Robbie)’ เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ ซึ่งคุณแม่ของเด็กทารกคนนี้ กล่าวว่า การรักษานี้เป็นเหมือน ‘ห่วงยางกู้ชีพ’ ที่ไม่คว้าเอาไว้ไม่ได้
“เราไม่เคยรู้เรื่องโรคสไปนา ไบฟิดามาก่อน จนกระทั่งได้รับการวินิจฉัย เราขอบคุณอย่างสุดซึ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองนี้ เราจะมอบโอกาสที่ดีที่สุดให้กับลูกสาวของเรา เพื่อให้เธอได้มีอนาคตที่สดใส”
นอกจากร็อบบี้แล้ว ยังมีเด็กคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมการทดลองนี้ ซึ่งทางทีมจะตรวจดูอาการและพัฒนาการทางทักษะต่างๆ ของพวกเขาอย่างใกล้ชิด เช่น ทักษะการเดิน ทักษะการขับถ่าย เป็นต้น อีกทั้งทีมแพทย์ยังวางแผนที่จะรักษาทารกอีกประมาณ 35 คน เนื่องจากจำเป็นต้องมีการศึกษาและติดตามผลเพิ่มเติมเพื่อประเมินว่าการรักษาทำงานได้ดีเพียงใด
ขณะเดียวกัน เปาโล เดอ คอปปิ (Paolo De Coppi) ศัลยแพทย์เด็กที่โรงพยาบาล Great Ormond Street ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้รักษาโรคสไปนา ไบฟิดา กล่าวว่า การใช้แผ่นแปะสเต็มเซลล์อาจปรับปรุงผลลัพธ์ในการรักษาให้ดีได้ พร้อมระบุว่า “นั่นคือความหวัง แต่เรายังต้องรอดูไปอีก”