เครื่องบินของกองทัพเมียนมาทิ้งระเบิดใส่กลางงานคอนเสิร์ตของกองกำลังเอกราชคะฉิ่น (KIA) ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ตุลาคม) ส่งผลให้มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย รวมนักร้อง-นักดนตรีที่มีชื่อเสียงของคะฉิ่นด้วยอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 100 ราย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดสำหรับการโจมตีทางอากาศในครั้งเดียว นับตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งของ ออง ซาน ซู จี เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
สำหรับงานคอนเสิร์ตดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของงานเฉลิมฉลองครบรอบ 62 ปี การก่อตั้งองค์การเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Organization) ที่บริเวณฐานทัพของกองกำลังคะฉิ่น ใกล้กับหมู่บ้านอ่องบ่าเหล่ (Aung Bar Lay) เมืองพะกาน (Hpakant) ซึ่งอยู่เหนือเมืองย่างกุ้งประมาณ 950 กิโลเมตร
ในฟุตเทจที่มีการส่งต่อกันผ่านโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นสภาพของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดอย่างรุนแรง เศษซากจากอาคารไม้ถูกระเบิดกระจายเต็มพื้นดิน รถจักรยานยนต์และสิ่งของต่างๆ ได้รับความเสียหาย ขณะที่วิดีโอและภาพอีกส่วนหนึ่งเผยให้เห็นศพผู้เสียชีวิตนอนเรียงรายอยู่บนพื้น
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้นานาชาติและหน่วยงานต่างๆ ออกมาประณามเมียนมาอย่างรุนแรง
สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (EU) ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ประณามการโจมตีพลเรือนในรัฐคะฉิ่นครั้งนี้
“การโจมตีครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลทหารมีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตและความไร้เสถียรภาพในเมียนมาและทั้งภูมิภาค รวมถึงละเลยต่อพันธกรณีของตนเองในการปกป้องพลเรือน และเคารพในหลักการและกฎตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” นานาชาติระบุในแถลงการณ์ร่วม
ด้านสหประชาชาติ (UN) เผยว่า ‘กังวล’ และ ‘โศกเศร้า’ กับเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว พร้อมกับระบุว่า “การใช้กำลังอย่างล้นเกินและไม่ได้สัดส่วนของกองกำลังความมั่นคงต่อพลเรือนที่ไม่มีอาวุธ ถือว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ”
ขณะที่ ฮานา ยัง (Hana Young) รองผู้อำนวยการภูมิภาคของ Amnesty International กล่าวว่า “เราเกรงว่า การโจมตีครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการโจมตีทางอากาศอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของกองทัพ ซึ่งได้คร่าชีวิตและทำพลเรือนบาดเจ็บ ในพื้นที่ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ” และย้ำด้วยว่า ไม่น่าเชื่อว่ากองทัพจะไม่รู้ว่ามีพลเรือนจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
การโจมตีทางอากาศในรัฐคะฉิ่นครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติอาเซียนจะมาร่วมประชุมกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการสร้างสันติภาพในเมียนมา ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคมนี้ด้วย
อ้างอิงจาก