สำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน ซึ่งก่อตั้งโดย เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และดำเนินการโดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า สำนักพิมพ์ได้รับการติดต่อมาจากตัวแทนนักธุรกิจจีนคนหนึ่ง ที่เสนอเงินจำนวน 2,000,000 บาท แลกกับการปิดบริษัท ในช่วงก่อนเริ่มประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20
วานนี้ (26 ตุลาคม) ทางสำนักพิมพ์ได้เผยแพร่รายละเอียดและหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยเล่าว่า ได้รับการติดต่อมาครั้งแรกผ่านอีเมลที่ส่งถึงเนติวิทย์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยบริษัทนักสืบเอกชนแห่งหนึ่งในไทย และมีการโทรศัพท์หาทีมงานอีกคนเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน สำนักพิมพ์ระบุว่า บริษัทนักสืบเอกชนดังกล่าว ได้พยายามเข้าหาเนติวิทย์ที่บ้านของครอบครัวและบ้านพักของเนติวิทย์ ก่อนจะพยายามติดต่อกับเนติวิทย์ที่วัดในขณะที่บวชอยู่ด้วย จนกระทั่งได้ส่งอีเมลมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 กันยายน ระบุถึงรายละเอียดข้อเสนอ
ในอีเมลดังกล่าว มีเนื้อหาข้อเสนอหลักๆ ระบุว่า “ให้จดทะเบียนปิดบริษัท นิสิตสามย่าน จำกัด คือให้ทำการจดทะเบียนปิดบริษัทฯ เฉยๆ ครับ ไม่ได้ให้เลิกทำธุรกิจนี้” และ “สามารถออกหนังสือวิจารณ์รัฐบาลจีนได้เหมือนเดิม” พร้อมกับเสนอจ่ายเงินสนับสนุนในการทำกิจกรรม 2,000,000 บาท
อีเมลฉบับนี้ยังบอกด้วยว่า ถ้ายื่นปิดบริษัทไปแล้ว สามารถยื่นให้เปิดบริษัทใหม่ได้ทันทีโดยใช้ชื่อใหม่ “จากการสอบถามกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทราบว่าถ้ามีการปิดบริษัท นิสิตสามย่าน จำกัด ไปแล้ว 6 เดือน ก็จะสามารถจองชื่อบริษัทนี้มาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง” บริษัทนักสืบเอกชนรายนี้ระบุ
ทีมงานสำนักพิมพ์จึงตัดสินใจไปพบกับตัวแทนบริษัท ที่บริเวณรอบๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ภายหลังจากปรึกษากับทนายความแล้ว และได้รับอีเมลมาอีกครั้งในวันที่ 2 ตุลาคม ที่ยืนยันถึงข้อเสนอและชี้แจงเพิ่มเติม
อีเมลฉบับที่ 2 นี้ มีการชี้แจงว่า “ถ้าเป็นการดำเนินการของฝ่ายความมั่นคงของจีน หรือพรรคคอมมิวนิสต์จีน จะเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนเอง เขาจะไม่ติดต่อว่าจ้างเอกชน” และ “ก็จะต้องเป็นการดำเนินการให้พวกน้องทำการปิดบริษัท, สำนักพิมพ์, เลิกขายหนังสือทั้งหมด และหนังสือที่มีข้อความวิพากษ์วิจารณ์จีน จะไม่ใช่แบบของลูกค้าเราอย่างแน่นอน”
ท้ายที่สุด สำนักพิมพ์ตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอในวันเดียวกัน ทำให้ได้รับการตอบกลับมาอีกครั้ง โดยแนบหนังสือเดินทางของนักธุรกิจจีนคนดังกล่าวเพื่อโน้มน้าว แต่ทางสำนักพิมพ์ยืนยันคำเดิม จนไม่ได้รับการติดต่อมาอีก
ภายหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด สำนักพิมพ์ได้เผยแพร่แถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งมีบางส่วนแปลได้ว่า “เรารู้สึกขอบคุณที่ทางการจีนมองเห็นงานของเรา และตระหนักถึงศักยภาพของความจริงที่เราได้เรียกร้องมาโดยตลอด แรกเริ่มเรารู้สึกกลัวที่จะออกมาพูด เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยของเรา อย่างไรก็ดี การละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อจะไม่สามารถถูกเก็บเงียบได้อีกต่อไป
“แม้จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหมด เรายังยืนยันจุดยืนและดำเนินการเพื่อปกป้องและส่งเสริมเสรีภาพการแสดงออกต่อไป เราขอตำหนิการเซ็นเซอร์และละเมิดสิทธิดังกล่าว เราขอประณามทุกๆ วิธีการและมาตรการที่เจ้าหน้าที่ใช้ เพื่อข่มขู่ คุกคาม และบงการ ผู้ที่แสดงออกท้าทาย”
สำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่าน ซึ่งมีสโลแกนว่าเป็น “นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยผ่านตัวอักษร” คือสำนักพิมพ์ที่เน้นเผยแพร่หนังสือหรืองานเขียนที่สนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และยังเป็นเจ้าของผลงานการแปลหนังสือหลายเล่ม ที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีน หรือสนับสนุนประชาธิปไตยฮ่องกงและไต้หวัน
อ้างอิงจาก