จากเหตุการณ์ที่ย่านอิแทวอน ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (29 ตุลาคม) ที่ผู้คนเบียดเสียดกันจนอาจเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 151 ราย โดยมากเป็นคนวัย 20-29 ปี นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ เราจึงขอรวมวิธีเอาตัวรอดจากการเบียดหรือเหยียบกันตาย (crowd cruch) โดยมีแนวทางเบื้องต้น ดังนี้
1.ลืมตาสอดส่องเส้นทางอยู่เสมอ
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวคือการออกจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด ดังนั้น ต้องใจเย็นและพยายามมองหาทางไปต่อ ไม่ว่าจะย้อนกลับทางเดิม หรือไปต่อข้างหน้า โดยพยายามคาดเดาให้ได้ว่า จุดศูนย์กลางของการเบียดกัน หรือว่าง่ายๆ ว่า ที่ที่คนรวมตัวกันอยู่เยอะที่สุดคือจุดไหน และ (หากเป็นไปได้) ให้เคลื่อนไปทางที่ผู้คนเบาบาง หรืออาจหาทางปีนขึ้นไปอยู่บนขอบกำแพงแทนก็ได้
2. เมื่อรอบตัวคนเริ่มเบียดกันมากขึ้น ให้ออกห่างจากจุดนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ยิ่งรออยู่จุดเดิมนาน ยิ่งยากที่จะเคลื่อนตัวออกมาได้ ดังนั้น อย่าลังเลที่จะออกจากบริเวณที่แออัดทันทีที่เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ และในขณะที่ยังมีที่ว่างพอที่จะเคลื่อนไหว การออกจากฝูงชนจะช่วยลดอันตรายให้กับผู้อื่นได้ เพราะพื้นที่จะแออัดน้อยลงสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในจุดนั้น
3. พยายามยืนตั้งมั่นไว้
หากมันสายเกินกว่าจะหนีออกจากจุดนั้น พยายามยืนตั้งมั่นรักษาบาลานซ์ให้ดี เพราะในเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้คนจะเบียดกันแน่นมากชนิดที่ว่า หากมีคนล้มลง ก็จะกลายเป็นโดมิโน่เอฟเฟกต์ทันที ดังนั้น หากเราล้มลงปุ๊บ น้ำหนักของคนอื่นๆ ก็จะตรึงเราไว้กับที่ ทำให้เราลุกขึ้นไม่ได้ และเสี่ยงต่อการโดนเหยียบจนเสียชีวิตได้
4. พยายามสูดลมหายใจเข้า
ออกซิเจนเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายเราอย่างยิ่ง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เหยียบกันตายส่วนมากเกิดจากการขาดอากาศหายใจ หลีกเลี่ยงการกรีดร้อง (ยกเว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นต้องส่งเสียง) เพื่อควบคุมการหายใจให้ดี
5. ใช้แขนตั้งการ์ดกันบริเวณทรวงอก
หากการเบียดกันเริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น ให้ยกแขนขึ้นมากันบริเวณทรวงอก (คล้ายๆ กับการตั้งการ์ดของนักมวย) เพื่อป้องกันกระดูกซี่โครง แต่ต้องไม่ตั้งการ์ดชิดกับอกจนเกิดไป ควรเว้นห่างไว้ 2-3 เซนติเมตร เพื่อให้เราสามารถหายใจได้
6. ไหลไปตามฝูงชน อย่าฝืน
เป็นเรื่องธรรมดาที่หากมีการดันไปอีกทาง ผู้คนมักจะฝืนดันกลับเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ แต่ต้านทานไปก็เสียแรงเปล่า ดังนั้น จึงควรปล่อยตัวเองให้ไหลไปตามทิศทางที่ฝูงชนเคลื่อน พร้อมกับรักษาบาลานซ์ของร่างกายให้มั่นคงไปด้วย
7. พยายามออกห่างจากสิ่งกีดขวาง
เทคนิคก่อนหน้านี้อาจใช้ไม่ได้ผล หากที่ที่เราอยู่นั้นใกล้ชิดกับกำแพง รั้ว หรือวัตถุแข็งอื่นๆ ที่เราปืนขึ้นไปไม่ได้ เพราะผู้เสียชีวิตรายแรกๆ จากการเบียดกันจนตายนั้น โดยมากมาจากการถูกอัดเข้ากับกำแพง ดังนั้น หากเป็นไปได้ให้พยายามอยู่ห่างจากกำแพงมากที่สุดเท่าที่ทำได้
8. ประเมินความหนาแน่นของฝูงชนให้ออก
เทคนิคสำหรับการประเมินนี้ แบ่งออกคร่าวๆ ได้ดังนี้
- หากไม่มีการสัมผัสทางกายภาพกับคนรอบข้าง ความหนาแน่นน่าจะยังน้อยกว่าสามคนต่อตารางเมตร ดังนั้น ณ ตอนนี้ทุกอย่างก็ปกติดี
- หากกำลังชนกับคนรอบตัว 1-2 คนโดยไม่ได้ตั้งใจ ความหนาแน่นของฝูงชนจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 คนต่อตารางเมตร ถือว่ายังไม่มีอันตรายในทันที แต่ควรย้ายออกจากศูนย์กลางของความแออัด
- หากไม่สามารถขยับมือได้อย่างที่คิด จนถึงขึ้นเริ่มยกมาแตะหน้าตัวเองไม่ได้ แปลว่าผู้คนแออัดกันอยู่มากเกินไป และกำลังจะเกิดอันตรายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำอื่นๆ เช่น หากเป็นกรณีที่ฝูงชนอยู่ในอาการแพนิก ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายเกินกว่าจะคาดเดา ให้พยายามตั้งสติให้ดี และหาทางออกให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่เพียงเท่านั้น จอห์น ดรูวรี (John Drury) นักจิตวิทยาจาก University of Sussex ยังแนะนำว่า ฝูงคนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีโอกาสจะรอดมากกว่าฝูงชนที่ต่างคนต่างเอาชีวิตรอด ดังนั้น ในขณะที่เราสามารถทำได้ การช่วยเหลือผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มที่เปราะบาง จึงเป็นประโยชน์กับทุกคน (แต่ย้ำว่า ต้องให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่เสี่ยงอันตรายจนเกินไปด้วย)
อ้างอิงจาก