ภาพศิลปะแอบสแตร็กต์ที่ชื่อ ‘New York City I’ ของศิลปินแอบแสตร็กต์ชาวดัตช์ชื่อดัง ‘พีต มองเดรียน’ (Piet Mondrian) ถูกจัดแสดงมากว่า 77 ปี นับตั้งแต่ปี 1945 จนถึงปัจจุบัน
ปัญหาเดียวก็คือ – มันถูกแขวนกลับหัวมาโดยตลอด
ผลงานชิ้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์งานจิตรกรรม ‘New York City’ ที่มองเดรียนได้สร้างสรรค์ขึ้นในช่วงปี 1941-1942 หลังจากที่ย้ายจากยุโรปมาอยู่ที่นิวยอร์ก โดยเผยให้เห็นเทปสีแดง–เหลือง–น้ำเงินสด และถูกจัดแสดงครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) ที่นิวยอร์ก เมื่อปี 1945 ก่อนจะมาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะนอร์ดไรน์–เวสต์ฟาเลน (Kunstsammlung Nordrhein-Westfalen) ตั้งแต่ปี 1980
รายละเอียดในภาพ จะพบว่ามีเทปหลายเส้น–หลายสีกระจุกอยู่ด้านล่างของภาพ ซึ่งแต่เดิมคาดว่าน่าจะมีความหมายแทนเส้นขอบฟ้าของเมือง แต่ภัณฑารักษ์หญิงชาวเยอรมัน ซูซันเนอ เมเยอร์–บือเซอร์ (Susanne Meyer-Büser) เป็นคนแรกที่เริ่มเอะใจ และมองว่ามันน่าจะหมายถึงอย่างอื่นมากกว่า
เมเยอร์–บือเซอร์ กล่าวกับ The Guardian ว่า “ส่วนที่เป็นเส้นหนาๆ ของกริด (grid) ควรจะอยู่ด้านบนมากกว่า เหมือนกับท้องฟ้าอันมืดหม่น” ซึ่งเธอบอกว่า เมื่อชี้ให้ภัณฑารักษ์คนอื่นดู ก็เห็นตรงกันว่า มันชัดเจนมาก “ฉันมั่นใจ 100% ว่าภาพนี้ถูกแขวนกลับหัว”
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานอีกหลายอย่างที่ชี้ว่ามันน่าจะกลับหัว คือ ภาพ ‘New York City’ ที่จัดแสดงที่ศูนย์ปงปีดู (Centre Pompidou) ในปารีส ซึ่งก็มีเส้นหนาๆ อยู่ด้านบนเช่นเดียวกัน รวมถึงภาพถ่ายในสตูดิโอของมองเดรียนที่ถูกเผยแพร่ในนิยสาร Town and Country เมื่อปี 1944 ซึ่งจะเห็นภาพเดียวกันนี้ วางอยู่บนขาตั้งในทิศทางที่ตรงกันข้าม
“มันเริ่มผิดตั้งแต่มีคนเอางานออกมาจากกล่องหรือเปล่า? หรือมีใครบางคนไม่รอบคอบพอในขณะที่ขนย้ายงาน?” คือคำถามของภัณฑารักษ์หญิง “ไม่สามารถที่จะบอกได้เลย”
แต่ถึงอย่างนั้น งานชิ้นนี้ก็จะถูกแขวนแบบกลับหัวไปอย่างนี้ต่อไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ สอดคล้องกับ เมเยอร์–บือเซอร์ ที่เตือนว่า “เทปกาวมันหย่อนยานมากแล้วและเกือบจะหลุดออกมา ถ้าคุณกลับหัวมันตอนนี้ แรงโน้มถ่วงก็จะดึงมันลงมา และตอนนี้มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของงานชิ้นนี้ไปแล้วด้วย”
ทางด้านพิพิธภัณฑ์ศิลปะนอร์ดไรน์–เวสต์ฟาเลน ก็เห็นด้วยว่างานชิ้นนี้ถูกแขวนกลับหัว แต่ก็มองว่า “ถ้าเราทดลองกลับหัว New York City I แบบ 180 องศา เราพบว่า งานชิ้นนี้ก็ยัง ‘ทำงานได้’” – และทำงานได้ดีด้วย เนื่องจากน้ำหนักในองค์ประกอบของภาพจะลงตัวอย่างพอดิบพอดี คือความเห็นของพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังชี้ว่า เป็นไปได้ที่มองเดรียนสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้โดยกลับหัวภาพไปมาขณะทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ก็จะทำให้ไม่มีทิศทางที่ถูกหรือผิด และการที่มีลักษณะปลายเปิดเช่นนี้ ก็อาจจะอีกส่วนหนึ่งที่ยิ่งสะท้อนถึงเมืองนิวยอร์กได้มากขึ้นด้วย
“นี่อาจจะเป็นคุณลักษณะที่พลิกวงการของผลงาน New York City I อย่างแท้จริง นั่นก็คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า มันสามารถถูกอ่านจากทิศทางแบบใดก็ได้ เช่นเดียวกับแผนที่ถนนในเมืองใหญ่ โดยมีความเปิดกว้างอยู่ในใจ และเคลื่อนไปในทุกทิศพร้อมๆ กัน ราวกับคู่รักที่เต้นระบำไปกับเพลงแนวบูกี–วูกี (boogie-woogie)” พิพิธภัณฑ์ระบุ
อ้างอิงจาก