ถึงจะรู้กันดีว่าโลกออนไลน์ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวอย่างแท้จริง แต่หากผู้ให้บริการออกมาบอกเอง ว่าพวกเขากำลังเฝ้ามองบัญชีของเราอยู่ คงไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่ อย่างที่ TikTok แจ้งต่อผู้ใช้งานว่า พนักงานบางคนของพวกเขา สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานในอังกฤษ และสหภาพยุโรปได้
‘นโยบายความเป็นส่วนตัว’ ขึ้นอยู่กับ “ความจำเป็นในการทำงานของพวกเขา” เป็นคำชี้แจงอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์มโซเชียลมิเดียรายใหญ่ ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลก ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่
นางอีเลน ฟ็อกซ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความเป็นส่วนตัวประจำยุโรปของ TikTok ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (2 พฤศจิกายน) ว่าทีมงานทั่วโลกช่วยกันรักษาประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้มีความต่อเนื่อง เพลิดเพลิน และปลอดภัย
โดยในขณะนี้ ได้ดำเนินการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานในยุโรปไว้ที่สหรัฐและสิงคโปร์
“เราได้อนุญาตให้พนักงานบางราย ที่ประจำอยู่ในบราซิล แคนาดา จีน อิสราเอล ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐ เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานชาวยุโรป” หัวหน้าฝ่ายนโยบายความเป็นส่วนตัวกล่าว
ทั้งยังชี้แจงว่า บริษัทพยายามจำกัดจำนวนพนักงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานในยุโรป เพื่อให้ข้อมูลไหลออกน้อยที่สุด และเก็บข้อมูลผู้ใช้งานยุโรปไว้ในพื้นที่
โดยการเปิดเผยดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์เดียวกับที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของ ของคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร หรือ FCC เรียกร้องให้มีการแบน TikTok ในสหรัฐ เพราะเชื่อว่าไม่มีหนทางไหนดีไปกว่านี้แล้ว ไม่อย่างนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปถึงมือของรัฐบาลจีน
ด้านบริษัทแม่ของ TikTok อย่าง ByteDance ยังคงปฏิเสธข้อครหาที่ว่า บริษัทถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม ทั้งอังกฤษ สหรัฐ รวมถึงประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป เพื่อหวังจะรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมืองของตนเอง
อ้างอิงจาก
