แม้การชุมนุมกลุ่มราษฎรยกเลิก APEC2022 ในวันนี้ (18 พฤศจิกายน) จะต้องการเพียงเคลื่อนขบวนไปใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสื่อสารข้อเรียกร้องแก่เหล่าผู้นำ เจ้าหน้าที่รัฐกลับใช้อำนาจสลายการชุมนุม จนส่งผลให้มีประชาชนถูกจับกุมและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ รังสิมันต์ โรม ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า “พ.ร.บ.ชุมนุม ไม่มีตรงไหนบอกเลยว่า ประชาชนจะเดินขบวนไปสถานที่จัดประชุม APEC ไม่ได้ ตราบที่ไม่ทำให้การประชุมจัดต่อไม่ได้”
“การที่ตำรวจมาตั้งแนวขวางและสลายการชุมนุม #ม็อบ18พฤศจิกา65 ตั้งแต่บริเวณลานคนเมืองที่ห่างออกไปเกือบ 10 กม. ยิงกระสุนยางระยะประชิด เป็นการใช้อำนาจล้นเกินอย่างชัดแจ้ง”
รังสิมันต์อธิบายข้อมูลด้วยว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีจะกำหนดให้ศูนย์ประชุมฯ เป็นสถานที่ตามความในมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.ชุมนุม แต่มาตรา 8 กำหนดแค่ว่า ‘การชุมนุมต้องไม่ขวางทางเข้าออกหรือทำให้ไม่สามารถใช้งานสถานที่ได้’ เท่านั้น
“ดังนั้นต่อให้ประชาชนเดินขบวนไปถึงหน้าศูนย์ประชุมฯ ถ้ายังจัดการให้การประชุมดำเนินต่อไปได้ ประชาชนก็ย่อมมีสิทธิชุมนุมได้ ซึ่งในความเป็นจริงกำลังตำรวจที่มีสามารถบริหารจัดการได้แน่ๆ” รังสิมันต์ ระบุ
ซึ่ง อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเอง ก็ได้ออกมาแสดงจุดยืนถึงการชุมนุมในครั้งนี้เช่นกัน โดยเธอโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “การแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธของประชาชนเช่นนี้ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้กระสุนยางในระยะประชิด”
การชุมนุมเริ่มต้นตั้งแต่ 7.30 น. บริเวณลานคนเมือง และเพียงไม่กี่ชั่วโมงถัดมา เจ้าหน้าที่ก็เริ่มใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ด้วยกระบอง แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง จนมีประชาชนและสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้ชุมนุมถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 25 ราย
อ้างอิงจาก