วันนี้ (22 พฤศจิกายน) ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมตัวแทนจาก The MATTER เข้ายื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้เรียกตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาไต่สวน กรณีเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเมื่อ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนมีประชาชนและสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นี่ยังไม่ใช่การฟ้องคดีใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นกรณีต่อเนื่องจากคดีที่เคยฟ้อง สตช. กรณีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 จนศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ‘ให้ควบคุมการชุมนุมอย่างระมัดระวัง และให้เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน’
แต่การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 พฤศิกายนที่ผ่านมา พบว่า คฝ. ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อ จึงมายื่นคำร้องต่อศาลแพ่งว่า คฝ. ละเมิดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลหรือไม่ เพื่อสร้างมาตรฐานในการทำงานของตำรวจ ให้เคารพคำสั่งศาลและเสรีภาพขององค์กรสื่อ
“18 พฤศิกายนที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะ The MATTER, ประชาไท, ช่างภาพ Reuters รวมถึงน้องนักข่าวจาก The Isaan Record ซึ่งอาจทำให้เห็นว่า การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือไม่ อย่างไร ทางภาคีฯ จึงมายื่นคำร้องให้ศาลเรียก สตช. มาชี้แจง” ตัวแทนภาคีนักกฎหมายฯ กล่าว
ตัวแทนจากภาคีนักกฎหมายยังให้ข้อมูลด้วยว่า ขณะนี้ ประเทศไทยไม่ได้อยู่ใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ดังนั้นการชุมนุมจึงอยู่ใต้ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ซึ่งมีการระบุชัดเจนว่า หากจะยุติการชุมนุม ต้องมีมาตรการและระเบียบขั้นตอน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าสลายการชุมนุมได้โดยตรง
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของภาคีนักกฎหมายฯ ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน คฝ. ใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงเกินขอบเขตของกฎหมาย จนมีผู้บาดเจ็บจากกระสุนยางแล้วอย่างน้อย 65 ราย ซึ่งในนั้นเป็นการเล็งกระสุนยางไปที่ศีรษะมากถึง 25 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน้อย 5 ซึ่งมีทั้งคนที่ต้องอัมพาตและสูญเสียการมองเห็น
แต่กลับไม่พบการสอบสวน–ตรวจสอบทางวินัยใดๆ ของ คฝ. แม้จะมีการฟ้องศาลแล้วก็ตาม รวมทั้งปัญหาความรุนแรงของ คฝ. ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการแก้ไข และยังมีพฤติกรรมรุนแรงซ้ำซาก
“การยื่นคำร้องขอให้ศาลเรียกตัวแทน สตช. มาไต่สวนในครั้งนี้ ภาคีฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีส่วนช่วยในการปรับปรุงพฤติกรรมการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและใช้อำนาจตามอำเภอใจของ คฝ. และผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมสนับสนุน ให้ท้ายการกระทำผิดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ใต้บังคับบัญชา จนก่อให้เกิดพฤติกรรมกร่างและใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที่” คือข้อความส่วนนึงจากแถลงการณ์