เสียชีวิตด้วยวัย 73 ปี สำหรับ ‘อิซเซ ซากาวะ’ (Issei Sagawa) ฆาตกรชาวญี่ปุ่น ที่เป็นที่รู้จักในฉายา ‘มนุษย์กินคนแห่งโกเบ’ (Kobe Cannibal) ที่สังหารและ ‘กิน’ นักศึกษาหญิงชาวดัตช์ แต่ลอยนวลและไม่เคยต้องรับโทษใดๆ
ซากาวะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยโรคปอดอักเสบ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโตเกียว ทางครอบครัวได้จัดงานศพซึ่งมีผู้เข้าร่วมเฉพาะญาติๆ โดยไม่ได้เปิดพิธีเป็นสาธารณะแต่อย่างใด
เรื่องราวของซากาวะ เกิดขึ้นเมื่อปี 1981 ในขณะที่เขาอายุ 32 ปี และกำลังเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ (Sorbonne University) ประเทศฝรั่งเศส โดยในวันที่ 11 มิถุนายนของปีนั้น เขาได้ชวน เรเน่ ฮาร์เทอเวลต์ (Renée Hartevelt) เพื่อนร่วมชั้นที่เป็นหญิงชาวดัตช์ วัย 25 ปี มาที่บ้าน
แต่ปรากฏว่า เขาได้เอาปืนยิงเธอจากด้านหลังเข้าที่ต้นคอ ทำให้เสียชีวิตทันที ต่อมาภายหลัง เขาได้ข่มขืนศพของเธอ และพยายามจะกัดเนื้อสะโพก แต่เนื้อแข็งเกินไป จึงออกไปซื้อมีดแล่เนื้อมาแล่เนื้อของฮาร์เทอเวลต์โดยเฉพาะ และนำมากินดิบๆ ก่อนจะนำที่เหลือมาปรุงอาหาร
พอศพเริ่มส่งกลิ่น ซากาวะได้นำร่างของเธอใส่กระเป๋าเดินทางสองใบ เพื่อนำศพไปทิ้งที่ทะเลสาบในสวนสาธารณะ บัวส์ เดอ บูโลญ (Bois de Boulogne) แต่ด้วยความที่การขนย้ายเป็นไปอย่างยากลำบาก และมีพิรุธ ทำให้เขาถูกตำรวจจับที่สวนสาธารณะดังกล่าว
ศาลฝรั่งเศสตัดสินว่า ซากาวะวิกลจริต ไม่สามารถสู้คดีได้ จึงให้ส่งตัวไปโรงพยาบาลจิตเวชสำหรับอาชญากร ซึ่งเป็นการตัดสินที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสไม่พอใจเพราะต้องใช้ภาษีเลี้ยงซากาวะ ต่อมาจึงถูกส่งตัวกลับญี่ปุ่นในปี 1984 แต่เนื่องจากเขาไม่ได้ถูกตั้งข้อหาที่ฝรั่งเศส พอมาอยู่ที่ญี่ปุ่น จึงไม่ต้องรับโทษใดๆ ทั้งสิ้น และกลายเป็นอิสระ
เมื่อมาอยู่ที่ญี่ปุ่น ซากาวะได้ผันตัวมาเป็นนักเขียน โดยหลักๆ จะเขียนถึงคดีฆาตกรรมของตัวเอง อย่างเช่นบันทึกชีวประวัติที่ชื่อ ‘คิริ โนะ นาคะ’ (Kiri No Naka) ที่แปลว่า ‘ในหมอกควัน’ นอกจากนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับคดีของเขา ที่ชื่อ ‘Caniba’ เพิ่งออกฉายเมื่อปี 2017 ด้วย
อ้างอิงจาก