คุณต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ จากมลพิษทางอากาศในชีวิตประจำวันหรือไม่? การศึกษาครั้งใหม่ในสหราชอาณาจักร พบหลักฐานเพิ่มว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศ มีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยเรื้อรังมากกว่าหนึ่งโรค ทั้งโรคทางระบบประสาท ทางเดินหายใจ ภาวะซึมเศร้า ไม่เว้นแม้แต่ภาวะวิตกกังวล
โดยการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยได้สำรวจในประชากรมากกว่า 360,000 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 40-69 ปี และมีข้อมูลด้านสุขภาพอยู่ใน UK Biobank นำมาสู่การพบข้อมูลว่า การอาศัยในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศ เพิ่มโอกาสการเจ็บป่วยเรื้อรังที่กระทบต่อการใช้ชีวิต และสร้างภาระใหญ่ให้กับระบบเศรษฐกิจ และงานบริการด้านสุขภาพ
ย้อนกลับไปช่วงปลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศเป้าหมายสำหรับอนุภาคฝุ่นละอองในอากาศที่เลวร้ายที่สุดในอังกฤษ ในปี 2040 ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เคยกำหนดไว้
สำหรับผลการวิจัยนี้ กำลังชี้ว่าหากอังกฤษแก้ปัญหามลพิษทางอากาศไม่ได้ทันเวลาตามเป้าหมายที่วางไว้ จะเพิ่มโอกาสให้ประชากรในประเทศเจ็บป่วยเรื้อรัง เพิ่มขึ้นถึง 20%
โดยหนึ่งในนักวิจัยจาก King’s College London อธิบายว่า การพบข้อมูลลักษณะนี้ สามารถช่วยออกแบบนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลได้ อย่างการกำหนดเขตปลอดมลพิษ หรือหลีกเลี่ยงการสร้างสถานพยาบาลในจุดที่มีมลพิษสูง เป็นต้น
ถึงแม้ว่ายังต้องใช้เวลาอีกมาก กว่าที่เราจะเห็นผลของโรคเรื้อรังเหล่านี้ได้ชัดเจน แต่เมื่อ 70 ปีก่อน เคยมีกรณีตัวอย่างให้ได้เรียนรู้มาแล้ว จากเหตุที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียชาวลอนดอนไปราว 12,000 คน จากหมอกควันครั้งเลวร้ายที่สุด ทั้งนี้ในการศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพของชาวลอนดอน ที่รอดชีวิตจากหมอกควันในปี 1952 ยังพบว่า ทารกที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หรืออยู่ในครรภ์นั้น พวกเขามีโอกาสเป็นโรคหอบหืดในวัยเด็กมากขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับคนที่อยู่นอกลอนดอน
ทั้งหมดนี้ย้ำให้เห็นว่า อากาศบริสุทธิ์สำคัญมากกว่าที่เราคิด ดังนั้นการวางเป้าหมายจัดการมลพิษทางอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็น แล้วอย่างนี้บ้านเราล่ะ มีแผนรับมืออย่างไรในปีนี้?
อ้างอิงจาก
