วันนี้ (27 มกราคม) พรรคพลังประชารัฐมีประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเอกฉันท์ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น ‘แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ ของพรรคเพียงรายชื่อเดียว
ไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้เสนอรายชื่อแคนดิเดตในที่ประชุมวันนี้ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 500 คน
“ทุกคนเห็นตรงกัน เสนอให้ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงท่านเดียว เพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และศักดิ์ศรีของพรรคพลังประชารัฐ จึงต้องเสนอท่านที่สูงสุด เหมาะสมที่สุด ที่ประชุมทุกระดับชั้น เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสม และเชื่อว่าท่านจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แน่นอน” ไพบูลย์ กล่าว
การประชุมในวันนี้ มีสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค, วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, และไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม
นอกจากเคาะแคนดิเดตนายกฯ แล้ว ยังมีการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐในตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งมีการเสนอรายชื่อ 3 คน ประกอบด้วย 1.นายสกลธี ภัททิยกุล 2. นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และ 3. นายอภิชัย เตชะอุบล เป็นกรรมการบริหารพรรค ซึ่งทุกคนล้วนผ่านมติเห็นชอบของที่ประชุม
ทั้งนี้ วิรัช กล่าวว่า พลังประชารัฐก้าวนำในพื้นที่ เราเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯก่อนทุกพรรค โดยเสนอเพียงชื่อเดียว ซึ่งพวกเราหมายมั่นปั้นมือกันทุกคน เราจะต้องร่วมแรงร่วมใจ หรือเอาใจบันดาลแรง ที่จะทำให้แคนดิเดตนายกฯ พปชร.ได้เป็นนายกฯคนที่ 30 และจากการที่เราเสนอจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราก็ได้เป็นนายกฯ คราวนี้เรามีความเชื่อมั่น100% หรือ 1,000% ก็ว่าได้ว่า หัวหน้าพรรค พปชร.จะได้เป็นนายกฯ แน่นอน
เขาย้ำด้วยว่า นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง คือ บัตรประชารัฐ 700 บาท และการดำเนินตามแนวทางของพรรค คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่