ภาพจำของไข้หวัดนกสำหรับคนไทยอาจจะเป็นตอนที่อดีตนายกนั่งกินไก่ให้ทุกคนดู ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็นานมากจนหลายคนอาจลืมไวรัสนี้ไปแล้วเช่นกัน แต่ไข้หวัดนกกำลังกลับมาระบาดในหลายๆ ประเทศ ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้อีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในจังหวัดไพรแวง ประเทศกัมพูชา (ติดกับชายแดนประเทศเวียดนาม) มีเด็กหญิงวัย 11 ปี เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนก สายพันธ์ H5N1 และต่อมาก็พบว่าพ่อของเธอก็ได้รับเชื้อไข้หวัดนกด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการติดเชื้อจากคนสู่คนหรือ มาจากการที่พ่อและลูกสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อ H5N1 กันแน่
แล้ว ไข้หวัดนก H5N1 คืออะไร?
ไข้หวัดนกชนิดนี้ เป็นไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ A ส่วนมากเกิดในสัตว์ปีกไม่ว่าจะเป็น นก หรือไก่ แต่ก็ยังสามารถแพร่ไปยังสัตว์ชนิดอื่นๆ รวมถึงมนุษย์ได้อีกด้วย
เมื่อสัตว์ได้รับเชื้อ จะทำให้สัตว์ที่ติดเชื้อมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว
แต่ถ้าติดในมนุษย์ จะทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเป็นไข้ หายใจเหนื่อยหอบจากปอดอักเสบ ผู้ป่วยบางรายอาจพบภาวะแทรกซ้อนทางปอดรุนแรงคือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว นอกจากนี้อาจพบอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย และอาจพบอาการทางระบบประสาท เช่น ซึม ชัก ในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมากจะมีภาวะการทำงานของหลายอวัยวะล้มเหลวและเสียชีวิตได้ โดยผู้ที่ติดเชื้อในช่วงต้นๆ มักพบอาการที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น หายใจลำบาก เสียงแหบ และมีเสียงครืดคราดเวลาที่หายใจ มีเสมหะ บางรายอาจมีเลือดปนออกมาในเสมหะ
มนุษย์จะติดเชื้อนี้ได้อย่างไร?
มนุษย์สามารถติดเชื้อไข้หวัดนกนี้ได้ผ่านอุจจาระและสารคัดหลั่งของสัตว์ปีกที่ติดเชื้อ ผ่านการหายใจเอาเชื้อเข้าร่างกาย รวมไปถึงการรับประทานสัตว์ปีก หรือไข่ของสัตว์ปีกโดยไม่ผ่านการปรุงสุกด้วยความร้อน 74 องศาเซลเซียสขึ้นไป ก็ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โรคไข้หวัดนก H5N1 สามารถรักษาให้หายได้ หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เมื่อแพทย์วินิจฉัยได้อย่างแน่ชัดแล้วว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก แพทย์จะให้ผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยในช่วงรักษาตัว แพทย์จะแนะนำให้พักผ่อนและดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานยาพาราเซตามอล เพื่อลดอาการไข้และอาการปวด ควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาต้านเชื้อไวรัสเพื่อลดความรุนแรงของอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกทั่วโลก
ซิลวี่ ไบรอันด์ (Sylvie Briand) ผู้อำนวยการฝ่ายเตรียมความพร้อมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคขององค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ออกมาชี้แจงถึงกรณีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล
“สถานการณ์ H5N1 ทั่วโลกน่าเป็นห่วงเนื่องจากไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายในนกทั่วโลกและรายงานผู้ป่วยในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงมนุษย์ก็เพิ่มขึ้น… และเรียกร้องให้ทุกประเทศระมัดระวังไวรัสชนิดดังกล่าว” ไบรอันด์กล่าว
อีกทั้ง เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) อธิบดีของ WHO จะกล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะไม่สามารถบอกได้ว่าไข้หวัดนกจะไม่ติดต่อจากมนุษย์ด้วยกันเอง และต้องเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนนี้ WHO ประเมินความเสี่ยงของไข้หวัดนกชนิด H5N1 ว่าเสี่ยงต่ำ โดยจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่ 5 มกราคม 2003-5 มกราคม 2023 ระบุว่า พบการติดเชื้อ H5N1 ในมนุษย์ทั้งสิ้น 868 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 457 รายมีอาการที่อาจอันตรายถึงชีวิต แต่นับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อที่อาการน่ากังวล 6 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย
ส่วนประเทศไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกมาบอกประชาชนว่าไม่ต้องวิตกกังวล เพราะกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังไข้หวัดนกจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านระบบ One Health แล้ว
นอกจากนี้ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ประเทศไทยไม่เจอไข้หวัดนกมาตั้งแต่ปี 2549 หรือคิดเป็น 16 ปีแล้ว เราไม่มีคนป่วยเป็นไข้หวัดนก แต่ส่วนใหญ่ยังรู้จักโรคนี้ และด้วยประสบการณ์ของเรา ระบบที่เราวางไว้ก็จะสามารถคัดกรอง ป้องกันได้ ซึ่งโรงพยาบาลต่างๆ ก็ยังคงมีระบบเฝ้าระวังเช่นเดิม”
“สิ่งที่เป็นความเสี่ยง คือ การลักลอบนำเข้าสัตว์ปีกตามชายแดน ขอประชาชนงดนำสัตว์ปีกเข้ามาในไทย ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอยู่ ส่วนคนที่กลับมาจากประเทศที่มีการพบโรคมีการระบาด ขอให้สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้ หรืออาการทางเดินหายใจ เจ็บคอ มีน้ำมูกให้พบแพทย์ รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือก็ยังช่วยป้องกันได้” รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
ในปัจจุบันการพบการติดเชื้อไข้หวัดนกแล้วใน 21 ประเทศ ซึ่งในอดีตที่โรคไข้หวัดนกเคยแพร่ระบาดในไทย ประเทศไทยก็เคยเจอและรายงานไว้ทั้งหมด 25 ราย เสียชีวิต 17 ราย โดยรองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า 21 ประเทศที่เจอนั้น มักเป็นประเทศที่อยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตร อย่างไทย ก็มีการเลี้ยงสัตว์ปีกเยอะ และช่วงอากาศเย็น หน้าหนาว หน้าฝนก็จะพบโรคได้ แต่ขอย้ำว่า ปัจจุบันไทยยังไม่พบ ซึ่งไม่พบมานานราว 16 ปี ขณะที่ประเทศแถบหนาวเจอเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยติดคน
ขณะที่ อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในช่วงที่ H5N1 ระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิดและในหลายพื้นที่ การติดเชื้อจากสัตว์สู่คนในภูมิภาคใกล้เคียงกับประเทศไทย จึงเป็นอะไรที่ต้องเฝ้าระวังอย่างจริงจัง เชื้อสามารถแพร่ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้มากขึ้น ทำให้ส่วนตัวกังวลไปที่สุกรเพราะสุกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดี และสามารถเป็นแหล่งสร้างไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆได้ เหมือนกรณีไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็มาจากสุกรสู่คนเช่นกัน
อ้างอิงจาก