จะเป็นยังไงถ้าจะลองตัดขาดกับโลกดิจิทัลสักหน่อย อย่างหมู่บ้านในอินเดียที่รณรงค์ให้คนปิดโทรศัพท์ และโทรทัศน์ในช่วงค่ำวันละชั่วโมงครึ่ง เพื่อหวังให้ได้ใช้เวลากับเพื่อนบ้านมากขึ้น และเด็กๆ จะได้มีสมาธิทำการบ้านเพิ่มขึ้น
ปัญหาการท่องโลกออนไลน์ และใช้เทคโนโลยีจนเกิดการเสพติด ถือเป็นความท้าทายที่หลายประเทศเร่งหาทางออก งานวิจัยใหม่ๆที่ศึกษาถึงโลกโซเชียลฯ ชี้ตรงกันว่า ภาวะติดมือถือก็เป็นการเสพติดรูปแบบหนึ่ง เพื่อตอบสนองความ ‘รื่นรมย์ รวดเร็ว เหนือความคาดเดา’ ที่สมองของมนุษย์โหยหา
นั่นถึงเป็นที่มาให้อินเดียเลือกใช้วิธี ‘digital detox’ ที่เชื่อว่าจะช่วยบำบัดการเสพติดสื่อดิจิทัลประจำวัน ถึงแม้ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ แต่หน่วยงานท้องถิ่นก็แอบขู่เล็กๆ ว่าอาจจะถูกขึ้นภาษีทรัพย์สินได้ ถ้าครอบครัวไหนไม่เคยให้ความร่วมมือเลย
สำหรับแคมเปญนี้เกิดในหมู่บ้านหนึ่ง ที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 15,000 คนในรัฐมหาราษฏระ โดยชาวบ้านจะปิดโทรศัพท์ และโทรทัศน์เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน “คนในครอบครัวไม่คุยกัน เด็กๆ ก็ไม่มีสมาธิทำการบ้าน แถมเพื่อนบ้านก็ไม่หยุดคุยกันตามท้องถนน” ราจู แม็กดัม (Raju Magdum) หัวหน้าสภาหมู่บ้านเล่าถึงเรื่องน่าตกใจ ที่ผู้คนเอาแต่จ้องหน้าจอกันทุกคืน
นั่นถึงเป็นที่มาให้ ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ที่จะถึงนี้เสียงสัญญาณไซเรนจะดังขึ้นทุกวัน ในเวลา 19.00 น. เพื่อให้ผู้คนปิดอุปกรณ์สื่อสาร ก่อนที่ไซเรนจะดังขึ้นอีกครั้ง เวลา 20.30 เป็นสัญญาณสิ้นสุดช่วงเวลาดีท็อกซ์ของวัน
แม็กดัม เล่าว่า ที่ผ่านมาในช่วงเวลาของโรคระบาดที่โรงเรียนปิด เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเรียนได้ไม่เต็มที่ แถมยังเคยชินกับการใช้เวลากับโทรศัพท์มากกว่าปกติ
ด้วยข้อจำกัดของบ้านส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ใหญ่โต ทุกคนอยู่รวมกันในพื้นที่เดียวกัน จึงยากที่จะแยกห้องอ่านหนังสือสำหรับเด็ก จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะเสียสมาธิไปกับละครที่พ่อแม่ชื่นชอบในระหว่างเรียน
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในอินเดีย เพราะในปี 2565 เคยวิธี digital detox ลักษณะนี้ในเขตสางคลีมาแล้วด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกัน ซึ่งผ่านมาแล้วราว 6 เดือน เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลเห็นว่าได้ผล ด้วยบรรยากาศการสนทนาและเสียงหัวเราะที่มากขึ้น
อ้างอิงจาก