“มันไม่ได้ถูกขายในฐานะผลิตภัณฑ์สันทนาการ—และไม่ใช่สินค้าเพื่อเด็กๆ ของเราอย่างแน่นอน แต่นั่นก็คือสิ่งที่มันกลายมาเป็น เป็นช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย” มาร์ก บัตเลอร์ (Mark Butler) รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าว
“เช่นเดียวกับสิ่งที่พวกเขาทำกับการสูบบุหรี่มาก่อน บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายได้โยกย้ายกันมาทำผลิตภัณฑ์เสพติดชิ้นใหม่ ห่อหุ้มด้วยแพ็กเกจแวววาว เพิ่มด้วยรสชาติ เพื่อสร้างผู้เสพติดนิโคตินรุ่นใหม่”
นับว่าเป็นมาตรการควบคุมครั้งใหญ่ของออสเตรเลีย เพราะวันนี้ (2 เมษายน) รัฐบาลออสเตรเลียประกาศผลักดันกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งจะแบนการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาจากการสั่งโดยแพทย์ ครอบคลุมถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีนิโคตินด้วย
ทั้งนี้ จะมีการกำหนดมาตรฐานคุณภาพขั้นต่ำ (minimum quality standards) เพื่อลดระดับนิโคตินที่อนุญาตให้มีในผลิตภัณฑ์ มีการกำหนดรสชาติ สี และต้องมีแพคเกจที่บ่งบอกว่าเป็นยาหรือเพื่อการแพทย์ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้แล้วทิ้งจะถูกแบนทั้งหมด
ทั้งหมดนี้ มีเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมของวัยรุ่นที่หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น และตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ามีไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเลิกบุหรี่ของนักสูบหน้าเก่าเท่านั้น
นอกจากกฎหมายใหม่ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียยังประกาศงบประมาณในการปฏิรูปบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าด้วย เป็นจำนวน 234 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 5.3 พันล้านบาท) เพื่อควบคุมความเสียหายจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
ในจำนวนนี้ จะมี 63 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.4 พันล้านบาท) สำหรับใช้ในการทำแคมเปญข้อมูลสาธารณสุขเพื่อยับยั้งไม่ให้คนเริ่มสูบบุหรี่กันมากขึ้น และส่งเสริมให้คนเลิกบุหรี่
รวมถึงจะมี 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 687 ล้านบาท) ที่จะใช้ไปกับการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเลิกบุหรี่ของประชาชน และการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
“สิ่งนี้ต้องยุติลง” ส่วนหนึ่งในสุนทรพจน์ของ มาร์ก บัตเลอร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย
อ้างอิงจาก