และวันนี้ เขาก็ได้นำข้อบังคับของพรรคก้าวไกลมายื่นเพิ่มเติม โดยในข้อบังคับของพรรคระบุว่า สมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) คือ คนที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ห้ามสมัครเป็น ส.ส.
ดังนั้น เรืองไกรจึงชี้ว่า จากข้อบังคับของพรรคดังกล่าว ก็ต้องตรวจสอบว่าจะทำให้พิธาพ้นจากการเป็นสมาชิกหรือไม่ และถ้าพิธาต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36
ส่วนทางด้าน กกต. วันนี้ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก็กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นคำร้อง แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องการร้องเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งมีขั้นตอนตามกฎหมายอยู่ 3 ช่วง คือช่วงก่อนวันเลือกตั้ง ช่วงหลังวันเลือกตั้ง และช่วงประกาศผลการเลือกตั้ง
โดยก่อนการเลือกตั้ง กฎหมายระบุว่า ถ้ากกต. ตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่มีคุณสมบัติ ให้ยื่นต่อศาลฎีกาพิจารณา ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเพียง 2 วัน หากดำเนินการก็คงไม่ทัน
ถ้าในช่วงหลังการเลือกตั้ง ก่อนการประกาศผล หากเห็นว่าผู้นั้นมีลักษณะต้องห้าม กกต.ก็จะมีมติให้ดำเนินคดีอาญามาตรา 151 ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ยังลงสมัคร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะไม่เป็นเหตุให้นำไปสู่การไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง
ดังนั้นก็ต้องประกาศผลให้เป็น ส.ส.ไปก่อน จากนั้นจะเป็นการดำเนินการหลังการประกาศผล ซึ่งในกรณีนี้ ส.ส.หรือ ส.ว. สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือทาง กกต.จะเป็นผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้
เมื่อถามต่อว่าทำไม กกต.ไม่ยื่นให้ศาลฎีกาพิจารณาก่อนการเลือกตั้ง เพราะถ้ายื่นหลังการเลือกตั้งจะมีผลกระทบมากกว่า
กรณีนี้ เลขาฯ กกต.ก็อธิบายว่า ทุกอย่างมีกระบวนการที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เมื่อมีเรื่องร้องเรียน สำนักงานก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อกล่าวหา ก่อนนำเสนอให้กกต.พิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ดี พิธาก็เคยออกมาชี้แจงถึงกรณีหุ้นไอทีวีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมแล้วว่า ไม่กังวลเพราะไม่ได้ทำอะไรขัดต่อหลักของกฎหมาย เนื่องจากหุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของตน แต่เป็นของกองมรดกที่เขามีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก รวมถึงเคยแจ้งและปรึกษา ป.ป.ช. ไปนานแล้ว
“ทั้งนี้ทีมกฎหมายพร้อมเตรียมการชี้แจงอยู่แล้วเมื่อ กกต.ส่งคำร้องมา เรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัดพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ต้องการเห็นการ ทลายทุนผูกขาด ในประเทศนี้” พิธาระบุ
พิธายังกล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลมาแรงที่สุด ย่อมเป็นธรรมดาที่จะถูกสกัด แต่ก็ขอให้ผู้สมัคร ทีมงาน หัวคะแนนธรรมชาติ และประชาชนผู้สนับสนุนทุกคน อย่าหวั่นไหว อย่าเสียสมาธิกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตนขอให้ทุกคนมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรจะมาขัดขวางก้าวไกลได้อีกแล้ว
อ้างอิงจาก