เมื่อวานนี้ (16 มิถุนายน) ที่ผ่านมา รัฐสภาญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายเพื่อส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของชุมชนเพศหลากหลาย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ากฎหมายดังกล่าวไม่ตอบสนองด้านสิทธิมนุษยชนของคนกลุ่มนี้อย่างแท้จริงและอาจยิ่งส่งเสริมการเลือกปฏิบัติเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อธิบายก่อนว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี 7 (G7) ซึ่งสมาชิกประกอบไปด้วยประเทศแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่ไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายต่อกลุ่มคนเพศหลากหลายเลย ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นจึงให้คำมั่นว่าจะผ่านกฎหมายดังกล่าวให้ได้ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ในวันที่ 19-21 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดี สภาล่างลงมติผ่านร่างกฎหมายห้ามเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนเพศหลากหลาย เมื่อวันอังคาร (13 มิถุนายน) ที่ผ่านมานี้เอง ถึงแม้ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติบางคนจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party) จะไม่เห็นด้วยก็ตาม นอกจากนี้ ทางสภายังมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในร่างกฎหมายนี้ที่ระบุว่า การเลือกปฏิบัติผู้อื่นโดยนำรสนิยมและอัตลักษณ์ทางเพศมาเป็นบรรทัดฐาน คือ ‘สิ่งที่ยอมรับไม่ได้’ แก้เป็น ‘ห้ามกระทำเป็นอันขาด’
“ถึงแม้ว่าร่างกฎหมายเดิมดูจะไม่พิเศษอะไร แต่ผมคิดว่ามันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” ทาเคฮารุ คาโตะ (Takeharu Kato) ทนายความและนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มสนับสนุนสมรสเท่าเทียมในญี่ปุ่น กล่าวก่อนที่ร่างกฎหมายนี้จะผ่าน
จึงสรุปได้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันทั้งจากภาคประชาสังคมและจากประเทศที่เป็นสมาชิก G7 โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ บรรดาผู้นำทางเศรษฐกิจยังกล่าวอีกว่า “พวกเรากลัวว่าญี่ปุ่นจะไม่สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ หากปราศจากการสนับสนุนความหลากหลาย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเพศ” ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนชาวญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาโดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน และพร้อมสนับสนุนกลุ่มคนเพศหลากหลายในประเด็นอื่นๆ
อ้างอิงจาก