สถานการณ์ภัยธรรมชาติในเกาหลีใต้ตอนนี้ยังคงน่าเป็นห่วง หลังมีรายงานว่าวันนี้ (16 กรกฎาคม) เกาหลีใต้ยังมีฝนตกหนักติดต่อกันอย่างต่อเนื่องในแถบภาคกลางของประเทศ ซึ่งสำนักข่าว The Korea Herald รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่นระบุ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย โดย 1 ในผู้เสียชีวิตคือชาวไทย, มีผู้สูญหาย 10 ราย และมีประชาชนอย่างน้อย 7,866 คนจาก 13 เมืองต้องอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
จากเหตุการณ์ฝนตกหนักนี้ ยังก่อให้เกิดดินถล่ม น้ำท่วมสูง มีบางพื้นที่ที่ไฟฟ้าดับ อีกทั้ง สถานการณ์ดังกล่าวยังทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้น จนไหลทะลักเข้าไปในอุมโมงค์ความยาว 685 เมตร ในเมืองโอซง จังหวัดชุงชองเหนือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีรถยนต์อย่างน้อย 19 คันถูกน้ำท่วม ทั้งรถบัสซึ่งมีผู้โดยสารอยู่ก็ยังติดอยู่ข้างในอุโมงค์ โดยจากรายงานล่าสุดก็ระบุว่า หน่วยกู้ภัยสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้อย่างน้อย 7 ราย
จากรายงานยังระบุอีกว่า ในจังหวัดคยองซังเหนือ เป็นจังหวัดที่พบผู้เสียชีวิตมากสุดคือ 18 ราย โดยสาเหตุหลักมาจากดินถล่มและที่อยู่อาศัยถล่ม ซึ่งส่วนใหญ่คนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นแรงงานต่างชาติ และล่าสุด สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลยังรายงานอีกว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นชาวไทย
ทางด้านของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ระบุว่าได้ติดต่อกับสามีชาวไทยที่พำนักอยู่ด้วยกันในเกาหลีใต้ รวมทั้งยังได้ประสานนายจ้างและตำรวจชาวเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมการเรื่องการจัดการศพแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ยังแจ้งเตือนคนไทยในสาธารณรัฐเกาหลี ระมัดระวังตัวจากเหตุการณ์ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ให้มากขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากหน่วยงานด้านสภาพอากาศของประเทศได้ยกระดับการแจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มสู่ระดับร้ายแรง ซึ่งนับว่าเป็นระดับสูงสุด ในทุกส่วนของประเทศ ยกเว้นในบริเวณเกาะเชจูแล้ว
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ก็ระบุว่ากำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่ม
ส่วนประธานาธิบดียุนซอกยอล ซึ่งกำลังเยือนยุโรปตะวันออกอย่างเป็นทางการ ก็ได้จัดประชุมทางวิดีโอกับทางสำนักงานรับมือภัยพิบัติ (Central Disaster and Safety Countermeasures Headquarters) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากกรณีดังกล่าว โดยเขายังได้มอบหมายให้นายกฯ ฮันด็อกซูระดมกำลังพลและทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อเข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ยังมีรายงานอีกว่า กระทรวงกลาโหมได้ส่งทหาร 1,239 นายไปปฏิบัติการช่วยเหลือเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และ อีก 6,500 นายทั่วประเทศก็กำลังเตรียมพร้อมเพื่อรอคำสั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่
อ้างอิงจาก