หลังจากญี่ปุ่นญี่ปุ่นปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี (กรอง-เจือจางแล้ว) จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็เกิดเสียงต่อต้านมากมายจากหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ถึงขั้นแบนการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นทันที โดยให้เหตุผลว่ากระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ที่เป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิต
อย่างไรก็ดี เกือบ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นไม่ได้แค่ประสบกับการถูกต่อว่า ประท้วง และคว่ำบาตร แต่ยังถูกต่อต้านในรูปแบบอื่นๆ ที่เกินการคาดเดาและยากที่จะควบคุม เช่น มีคนขว้างก้อนหินใส่โรงเรียนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในจีนหรือการโทรป่วนหลายร้อยสาย คาดเพื่อต้องการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อญี่ปุ่น แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมายืนยันว่าน้ำดังกล่าวไม่เป็นอันตรายก็ตาม
แล้วทำไมจีนถึงตอบโต้ญี่ปุ่นขนาดนี้?
นับตั้งแต่วันที่ญี่ปุ่นเริ่มปล่อยน้ำปนเปื้อนก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ มากมาย อาทิ มีการขว้างก้อนหินใส่โรงเรียนญี่ปุ่นในเมืองชิงเต่า ประเทศจีน เช่นเดียวกับโรงเรียนญี่ปุ่นอีกหลายแห่งอย่างในซานตงที่ถูกขว้างไข่หลายใบเข้าไปในบริเวณของโรงเรียน และล่าสุดสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งก็ถูกขว้างอิฐใส่
“ตั้งแต่ต้นปี 2023 รัฐบาลจีนและสื่อของรัฐได้ดำเนินการบิดเบือนข้อมูลโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนจีนไม่พอใจ ..เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง” ฮัมซินี ฮาริฮารัน (Hamsini Hariharan) ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับจีนจากโลจิคคอลลี่ (Logically) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลสหราชอาณาจักรระบุ
เธอยังเสริมว่า “มันไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาหารเลย เพราะจีนเองก็มีเรื่องอื้อฉาวมากมายเกี่ยวกับประเด็นนี้” ซึ่งฮาริฮารันยังสังเกตว่า จีนมักจะวางตัวเองเป็น ‘ผู้นำที่ดีกว่า’ ในระเบียบโลก ไม่ใช่สหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตร ดังนั้น ผู้คนมากมายจึงออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ปมความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นและจีนไม่เคยลดลงเลย ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นตัดสินใจรุกรานจีนในช่วงต้นทศวรรษ 1900
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีชาวญี่ปุ่นได้รับบาดเจ็บหรือสถานที่ต่างๆ ได้รับความเสียหาย แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็เรียกร้องให้จีนดูแลความปลอดภัยของพลเมืองของตนที่เป็นคนญี่ปุ่น ไม่เพียงเท่านั้น กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นยังเตือนพลเมืองของตนในประเทศจีนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการพูดภาษาญี่ปุ่นในพื้นที่สาธารณะ
“จีนปกป้องความปลอดภัยและสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของชาวต่างชาติในจีนเสมอ” หวัง เหวินปิน (Wang Wenbin) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าว พร้อมยืนยันว่าจีนได้พิจารณาข้อกังวลของญี่ปุ่นแล้ว”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของญี่ปุ่นถูกคาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนักนับจากนี้ เพราะจีนซึ่งเป็นผู้ซื้ออาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดจากญี่ปุ่น แต่คาดว่าญี่ปุ่นอาจยื่นเรื่องร้องเรียนกับองค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับการแบนดังกล่าวในสัปดาห์นี้
อ้างอิงจาก