วันนี้ (12 กันยายน) พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.ก้าวไกล เริ่มต้นด้วยการนิยาม ครม.ชุดนี้ภายหลังการอ่านแถลงนโยบายทั้งฉบับ ว่าเป็นรัฐที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ ทั้งที่เคยได้ข้อสรุปรวมกันมาแล้วว่าไทยต้องจัดทำใหม่
สส.ก้าวไกลรายนี้ นำสมาชิกรัฐสภาย้อนไปครั้งที่ทุกคนได้ร่วมกันลงมติเห็นชอบถึง 88% เพื่อรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นเป้าหมายของรัฐบาลนี้จึงควรมุ่งหน้าไปในทางเดียวกัน
แต่เมื่อเปรียบเทียบรายตัวอักษรในประเด็นนี้แล้ว พริษฐ์ ชี้ว่า นโยบายของนายเศรษฐานั้นต่างกับ นายกฯ เศรษฐา ที่ปรากฏอยู่ 94 คำใน 7 บรรทัด ภายใต้ 4 ประเด็นคำถาม คือ
– สนับสนุนให้จัดทำ รธน. ฉบับใหม่หรือไม่
นายเศรษฐา : จัดทำฉบับใหม่
นายกเศรษฐา : ไม่ให้คำมั่นสัญญา เพียงบอกว่าจะหารือ และบอกว่าจะทำให้คนไทยมีรธน.ที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
“ถ้าถามว่าคำสัญญานี้ เป้าหมายนี้เป็นบาร์ที่ต่ำขนาดไหน ลองคิดดูว่าถึงแม้หากนายกฯ ไม่ทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ ไม่แตะการแก้ รธน.เลย ภายในระยะเวลาไม่ถึง 9 เดือนคนไทยก็จะได้ รธน.ที่เป็นประชาธิปไตยโดยอัตโนมัติอยู่ดี”
“ผมจำเป็นต้องทวงถามท่านนายกฯ อย่างตรงไปตรงมา ว่าตกลงแล้วจะยังสนับสนุนให้มีการจัดทำ รธน ฉบับใหม่อยู่หรือไม่ หรือพอท่านได้ประโยชน์จาก รธน.60 ที่ทำให้ท่านได้เป็นนายกฯ ถึงทุกวันนี้ จุดยืนของท่านถึงได้เปลี่ยนแปลงไป”
– ใครจะจัดทำ รธน. ฉบับใหม่
นายเศรษฐา : สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือสสร.ที่มาจากการเลือกของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับร่างแก้ไขของเพื่อไทยที่เคยยื่นในรัฐบาลชุดก่อน
นายกเศรษฐา : ยังคงเงียบ อาจกลับลำมาสนับสนุน สสร. ที่มีส่วนผสมแต่งตั้ง เพื่อเปิดช่องให้มีการแทรกแซง ซึ่งไม่มีการปรากฏในแถลงนโยบาย “ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้น ประเทศเราอาจมี รธน.ฉบับใหม่ ที่ใหม่แค่โดยชื่อ”
-ล็อกเนื้อหา รธน.ใหม่ยังไง
นายเศรษฐา : ให้เกียรติประชาชน เปิดให้ สสร.ถกเถียง ขอแค่คงรูปแบบการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
นายกเศรษฐา : เพิ่มเติมไม่ให้แก้ข้อความในหมวด 1 และ 2
-เริ่มต้นอย่างไร
นายเศรษฐา : ออกมติ ครม.จัดทำประชามติในการประชุมนัดแรก
นายกเศรษฐา : ไม่มีความชัดเจน บอกจะหารือ
“เรื่องนโยบายแก้ไข รธน. ในขณะที่นโยบายของนายเศรษฐานั้นชัดเจน ตรงจุด แต่นโยบายของนายกฯ เศรษฐานั้นกลับหาความชัดเจนไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว ”
“ความจริงแล้วในวันที่ท่านยกร่างคำแถลงนโยบายนี้ เพียงแค่ไปก๊อปปี้ข้อความในเอกสารนโยบายของพรรคท่านมาแปะ วันนี้ผมคงไม่ต้องเสียเวลาสภาฯ แห่งนี้ลุกขึ้นมาอภิปรายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย”
“ไม่น่าเชื่อว่าการเติมตัวอักษร ก เพียงตัวเดียวของนายเศรษฐา มาเป็นนายกเศรษฐา ได้ทำให้จุดยืนของท่านเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้”
อ้างอิงจาก
