เชื่อว่าหลายๆ คนคงเห็นผ่านตามาบ้างว่าในขณะนี้กำลังมีการรณรงค์ให้ผู้คนไปแสดงความคิดเห็นต่อ ‘ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม’ ที่ถูกยื่นเข้าสภาอีกครั้ง แต่หลายคนคงอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมต้องยื่นใหม่ เกิดอะไรขึ้นกับร่างก่อนหน้า หรือตอนนี้สมรสเท่าเทียมอยู่ขั้นตอนไหนแล้ว และเราสามารถช่วยอะไรได้บ้าง?
วันนี้ The MATTER จึงชวนทุกคนมาดูกันว่าเหตุใดถึงต้องยื่นร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมใหม่ รวมทั้งขณะนี้เสียงของพวกเราสามารถผลักดันกฎหมายนี้อย่างไรบ้าง
เริ่มต้นก่อนว่า พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม คือการมอบสิทธิให้กับคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+) ในศักดิ์ศรีการเป็น ‘คู่สมรส’ ตามกฎหมาย โดยจะแก้ไขบทบัญญัติว่าด้วยการสมรสฯ จากเดิมที่เป็นระหว่าง ‘ชายและหญิง’ เป็น ‘บุคคลทั้งสองฝ่าย’ แทน
อย่างไรก็ดี เดิมทีร่างดังกล่าวผ่านการเห็นชอบในวาระ 1 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 และเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมก็ถูกบรรจุอยู่ในวาระที่ 2 และ 3 ในสภาแล้ว ซึ่งถ้าสามารถผ่านชั้น สส. และ สว. ไปได้ ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือ การทูลเกล้าฯ ให้พระมหากษัตริย์ลงปรมาภิไธย และก็จะถูกบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ทว่า พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ยังอยู่ในขั้น ‘รอพิจารณาในวาระ 3’ ระหว่างเปลี่ยนผ่านรัฐบาลพอดี อย่างไรก็ดี ทุกคนคงทราบดีว่า การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นล่าช้าไปมาก ส่งผลให้สมรสเท่าเทียมและกฎหมายที่ยังค้างคาอื่นๆ ต่างถูกตีตกไป เนื่องจาก ครม. ชุดใหม่ยื่นเรื่องต่อรัฐสภาให้พิจารณาร่างกฎหมายในกรอบเวลา 60 วันหลังจากประชุมรัฐสภานัดแรกไม่ทัน
ดังนั้น เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมจึงถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นอีกครั้งโดย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งในขณะนี้มีผู้แสดงความคิดเห็นเพียง 5 ร้อยกว่าคนเท่านั้น ทั้งนี้ การแสดงความคิดเห็นของประชาชนนั้นสำคัญมาก เพราะทุกความเห็นจะถูกนำไปประกอบการให้เหตุผลในชั้นคณะกรรมาธิการได้ นอกจากนี้ ยังเป็นแรงผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวได้เดินหน้าต่ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้ว คาดว่าสภาอาจจะปิดรับฟังความคิดเห็นภายในวันที่ 25 กันยายนนี้
“สู้กันต่อเพื่อผลักดันสมรสเท่าเทียมที่ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ให้เกิดขึ้นให้ได้”
สามารถแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมได้ที่นี้: https://www.parliament.go.th/section77
อ้างอิงจาก