“เช้านี้ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แต่ดิฉันมีความรู้สึกผิดติดค้างคิดว่าสมควรต้องออกมาขออภัยอย่างจริงใจต่อ toxic ในสังคมออนไลน์ที่ตัวเองมีส่วนสร้างขึ้นเมื่อวานนี้” คือข้อความจาก อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และอดีต สส. 1 สมัย
เล่าย้อนก่อน เมื่อวานนี้ (20 กันยายน) อมรัตน์โพสต์บนโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า ไปเยี่ยมแฟนคลับเพื่อไทยคนหนึ่งถึงสถานที่ทำงานและบ้านพักส่วนตัว โดยแฟนคลับคนเดียวกันนี้ คือคนที่มีปัญหาถกเถียงกันบนโลกออนไลน์บ่อยๆ
เช่น เคยโพสต์พาดพิง อดีต สส.อมรัตน์ ว่า “อะมะรัด หรือมนุษย์” หรือ “อมรรัตน์แปลว่าเพชร แต่ อม–รัตน์’ จึงแปลว่าอม–เพชร เพชรเถอะแม่ยักษ์” เป็นต้น
อมรัตน์จึงโพสต์เปิดเผยอัตลักษณ์และที่อยู่โดยคร่าวของแฟนคลับเพื่อไทยรายนี้ โดยให้เหตุผลเรื่องความ toxic และการโดนหมิ่นประมาท นอกจากนี้ยังเล่าด้วยว่า ได้พูดคุยกับเจ้านายในที่ทำงานของแฟนคลับเพื่อไทยที่บุกไปหาแล้ว จนบุคคลนี้ยินยอมจะเซ็นต์รับทราบหนังสือตักเตือนจากนายจ้างพร้อมถูกทัณฑ์บน 1 ปี
ทั้งนี้ อมรัตน์กล่าวว่า ไม่มีการข่มขู่ใดๆ เพียงแค่ส่งข้อมูลให้บริษัทซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 พิจารณาเท่านั้น พร้อมแนบหลักฐานบทสนทนาระหว่างบริษัทของแฟนคลับเพื่อไทยที่พิมพ์ว่า “เราจะสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อพบว่ากระทำผิดจริงจะดำเนินมาตรการทางวินัยกับพนักงาน”
ความคิดเห็นต่อเรื่องนี้หลากหลาย มีประชาชนบางส่วนสนับสนุนเพราะเชื่อว่าอมรัตน์เป็นฝ่ายโดนคุกคามมานานแล้ว แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่เป็นทั้งโหวตเตอร์เพื่อไทยและก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการกระทำของอมรัตน์นัก
เช่น บางคนมองว่า แม้สิ่งที่ถูกกระทำอาจไม่เหมาะสมจริง แต่อมรัตน์ไม่ควรใช้วิธีนี้เพราะอาจเป็นการใช้อิทธิพลส่วนตัวกดดันไม่ให้ประชาชนวิจารณ์, บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่ใช้กลไกทางกฎหมายฟ้องร้องเอา, ขณะที่บางคนตั้งคำถามว่า นี่คือการละเมิดสิทธิเสรีภาพคุกคามประชาชน ขัดกับสิ่งที่พรรคยึดถือหรือไม่
เป็นเหตุให้วันนี้ (20 กันยายน) อมรัตน์โพสต์ขอโทษที่สร้างความ toxic ต่อสังคมออนไลน์ แต่ยืนยันว่าตนใช้วิจารณญาณพอแล้วที่จะตัดสินว่าอะไรคือ ‘ภัยสังคม’ ที่ชาวออนไลน์ได้ผลกระทบร่วมกัน
“การกระทำตามวิจารณญาณส่วนตัวนั้นจะผิดถูกดีเลวอย่างไร ดิฉันยินดีรับผิดชอบทั้งทางสังคมและทางกฎหมายทุกประการ ดิฉันก็จะพิทักษ์สิทธิ์ตัวเองตามกฎหมายต่อไปเช่นเดียวกัน”
“ขอยืนยันว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 นั้นเป็นไปอย่างสุภาพมีเหตุผล ไม่มีสิ่งใดเลยที่ใกล้เคียงกับคำว่าข่มขู่คุกคามตามที่พยายามมีกระแสปั่น ดิฉันเป็นไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่มีศักยภาพข่มขู่บังคับใครแน่นอนหากบุคคลที่ 3 ที่เกี่ยวข้องมิได้เห็นพ้องด้วย” อมรัตน์ ระบุ
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/big_kiattichai/status/1704184715501351132?s=46&t=DijIngMx7yUSpk4ZcQoRKA
https://twitter.com/big_kiattichai/status/1704184715501351132?s=46&t=DijIngMx7yUSpk4ZcQoRKA
https://www.facebook.com/photo/?fbid=819595619855860&set=a.456888076126618