กลายเป็นเหตุประท้วงวุ่นวายกลางสภาฯ หลัง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยื่นกระทู้ถามสดนายกฯ เรื่องการบริหารงานตำรวจ–โรงไฟฟ้า–คดีการเมือง แต่เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ไม่มาตอบเอง มอบหมายให้ ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มาตอบแทน
ข้อถกเถียงจบลงด้วยการที่ชัยธวัชแจ้งต่อที่ประชุมว่า เมื่อนายกฯ ไม่มาตอบเอง ก็จะไม่ถามกระทู้สดในวันนี้ ต่อมาจึงกลายเป็นคิว สส.รัฐบาลถาม ซึ่งเศรษฐาก็เข้ามาฟังและตอบกระทู้ถามสด
เกิดอะไรขึ้น สภาเถียงอะไรกัน การที่นายกฯ ไม่มาตอบเองเป็นอะไรไหม The MATTER สรุปข้อถกเถียงที่เกิดในที่ประชุมสภาให้ฟัง
1. วันนี้ (26 ตุลาคม) ที่ประชุมสภาฯ มีนัดถามกระทู้สดด้วยวาจาต่อนายกฯ เศรษฐา ซึ่งผู้ยื่นถามกระทู้สด คือ ชัยชนะ เดชเดโช ประชาธิปัตย์, อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจย์ รวมไทยสร้างชาติ, และชัยธวัช ตุลาธน ก้าวไกล
ซึ่งปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา โพสต์เอกสารกระทู้ถามสดด้วยวาจาบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ซึ่งระบุประเด็นที่ชัยธวัชจะตั้งกระทู้ถามไว้ ได้แก่ การบริหารงานตำรวจ–การบริหารจัดการโรงไฟฟ้า–กระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีทางการเมือง
2. ระหว่างการประชุมช่วงเช้า ชัยธวัชยกมืออภิปรายตั้งคำถามว่าว่า ทั้งที่ตนก็แจ้งประธานสภาเรื่องการตั้งกระทู้ถามสดไปแล้ว ทำไมนายกฯ ไม่มาตอบกระทู้ถามสดของตนเอง แต่กลับมอบหมายให้รัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นคำถามมาตอบแทน ขณะที่ตนเองไปตอบกระทู้ของสมาชิก 2 ท่านอื่นได้
“มาแจ้งว่านายกฯ ไม่ประสงค์จะตอบผม มอบหมายให้ รมต.ยุติธรรม ซึ่งจะตอบแทนได้หรอ ผมจะถามนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (กตร.) ผมจะถามนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ จะถามในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่ามีนโยบายคดีการเมืองอย่างไร ซึ่งรัฐมนตรียุติธรรมไม่มีความเหมาะสมที่จะตอบ” ชัยธวัช กล่าว
3. ด้าน ทวี สอดส่อง รัฐมนตรียุติธรรมในฐานะผู้ถูกมอบหมายให้ตอบคำถามชัยธวัช ลุกอภิปรายว่า ข้อบังคับ ม.158 ระบุว่า รัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินและมีความรับผิดชอบร่วมกัน ดังนั้น การที่นายกฯ มอบหมายให้มาตอบคำถาม ตนในฐานะ ครม. ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
4. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.ก้าวไกล จึงลุกอภิปรายตั้งคำถามต่อว่า การที่นายกฯ ไม่มาตอบเอง จะผิดข้อบังคับที่ 151 หรือไม่ ซึ่งข้อบังคับนั้นระบุว่า
“นายกฯ หรือ รัฐมนตรีที่ถูกตั้งกระทู้ถามต้องเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อตอบกระทู้ถามในเรื่องนั้นด้วยตนเอง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ทำให้ไม่อาจตอบกระทู้ แต่ต้องแจ้งเหตุจำเป็นเป็นหนังสือต่อประธานสภาก่อน หรือในวันประชุมสภา และให้กำหนดว่าจะตอบได้เมื่อใด”
“ในกรณีที่มีการมอบหมายให้ รมต. อื่นที่เกี่ยวข้องตอบกระทู้ถาม จะต้องแจ้งเป็นหนังสือต่อประธานสภาฯ ก่อนถึงระเบียบวาระกระทู้ถาม” และ “นายกฯ หรือ รัฐมนตรีย่อมมีสิทธิไม่ตอบกระทู้ถาม เมื่อครม. เห็นว่า เรื่องนั้นยังไม่ควรเปิดเผยเพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน”
วิโรจน์ตั้งคำถามว่า ถ้านายกฯ มีเหตุจำเป็นก็ควรร่างหนังสือตอนนี้ และอ่านเหตุผลที่ไม่อาจตอบกระทู้ถามหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ต่อที่ประชุมสภาไปเลย ไม่ใช่มามอบหมายฉับพลัน ซึ่งชวนให้สงสัยว่า นายกฯ แจ้งหนังสือต่อประธานสภารึยัง ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับ 151 รึเปล่า ถ้าใช่ ก็ขอให้ตอบด้วยว่าลงวันที่เท่าไหร่ ตอนกี่โมง
5. พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ จากเพื่อไทยจึงตอบคำถามว่า หนังสือที่นายกฯ บัญชามอบหมายให้รัฐมนตรียุติธรรมมาชี้แจง ลงวันที่ 26 ตุลาคม วิโรจน์จึงตั้งคำถามต่อว่า หนังสือที่มอบหมายให้คนอื่นมาตอบแทนมีเพียงคำบัญชา ไม่ได้ชี้แจงอธิบายเหตุจำเป็นที่ต้องหลีกเลี่ยงไม่สามารถตอบกระทู้ได้
“ตราบใดที่ไม่มีการอธิบายผลให้เชื่อว่าเป็นเหตุจำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงและไม่อาจตอบกระทู้ได้ นายกฯ กำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 151” วิโรจน์ระบุ พร้อมบอกด้วยว่า ถ้าจะใช้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยของแผ่นดิน ต้องอธิบายด้วยว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร
6. ต่อมา พิเชษฐ์ รองประธานสภาฯ ประกาศวินิจฉัยว่า กรณีที่ส่งตัวแทนมาตอบคำถามกระทู้สดแทน นายกฯ สามารถทำได้และถูกต้องตามข้อบังคับแล้ว แต่ก้าวไกลก็ยังไม่ยอม พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.ก้าวไกล ยังลุกประท้วงคำวินิจฉัยของประธาน โดยอธิบายถึงเงื่อนไขในข้อบังคับ 151
ระหว่างพยายามอธิบาย สส.จำนวนหนึ่งพยายามเปิดไมค์ขอประท้วง ทำให้คำอธิบายของพริษฐ์จึงต้องหยุดชะงักไป แทนด้วยเสียงประท้วงจาก สส.ซีกรัฐบาลแทน เช่น ไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.เพื่อไทย ก็ลุกอภิปรายว่า คำวินิจฉัยของประธานเป็นเด็ดขาดแล้ว ฝั่งรัฐบาลมาจากประชาชน ไม่หนีสภาและไม่หนีตอบกระทู้แน่นอน ขณะที่สส.บางคนบอกว่า คำวินิจฉัยประธานคือสิ้นสุดเด็ดขาดแล้ว ขอให้ควบคุมการประชุมด้วย
7. สภาฯ ยังประท้วงกันวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งชัยธวัชลุกอภิปรายเองว่า ไม่ต้องประท้วงแล้ว เพราะจะไม่รอนายกฯ มาตอบและจะไม่ตั้งกระทู้ถามสดในวันนี้
“ที่ผมแจ้งประเด็นถามกระทู้สดวันนี้ต่อนายกฯ ก็ด้วยเหตุผลว่า เดิมทีเรามั่นใจและได้รับการยืนยันว่านายกฯ จะมาตอบกระทู้วันนี้ และนายกฯ ก็ให้ข่าวกับสื่อหนักแน่นเมื่อวานว่าจะไม่หนีสภา”
“ผมไม่ทราบว่าสุดท้ายนายกฯ จะมาตอบท่านที่ 2-3 หรือไม่ แต่ประเด็นที่ผมตั้งกระทู้ถามก็ยืนยันว่า รมต.ยุติธรรม จะไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ แม้จะดูเป็น 3 เรื่อง แบบคนละเรื่องเดียวกัน แต่มันเกี่ยวพันกับหน้าที่ การใช้อำนาจของนายกฯ ที่อาจผิดกฎหมาย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการทำผิดกฎหมาย ซึ่งอำนาจในการยับยั้งอยู่ที่นายกฯ”
8. พอชัยธวัชพูดจบ วาระการประชุมดำเนินต่อ อัครเดชจากพรรครัฐบาลก็ลุกตั้งกระทู้ถามสดว่าด้วยเรื่องผลประโยชน์ประชาชนจากการที่นายกฯ เดินทางไปเยือนหลายประเทศ ซึ่งเศรษฐาก็ปรากฎตัวในที่ประชุม และตอบคำถามที่ถูกตั้งอย่างฉะฉานมั่นใจ
9. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนำมาสู่การตั้งคำถามจากคนบางส่วนว่า ทำไมเศรษฐาไม่ตอบกระทู้ถามสดจากก้าวไกลด้วยตัวเอง เป็นการจงใจหลีกเลี่ยงการตอบพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ ผิดข้อบังคับหรือเปล่า ขณะที่บางส่วนก็มองว่า เศรษฐาสามารถมอบหมายให้หนึ่งในคณะรัฐมนตรีตอบคำถามแทนได้
10. ด้านชัยธวัช ออกมาโพสต์บนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) หลังจบวิวาทะว่า
“วันนี้เป็นที่ชัดเจนว่านายกฯ เจตนาไม่ตอบกระทู้ถามสดของพรรคก้าวไกล ต้องการจะตอบกระทู้ถามสดเฉพาะที่ตนเองเตรียมมาตอบหรือชงให้โฆษณารัฐบาลเท่านั้น จริงๆ ประเด็นสำคัญของปัญหาที่ผมต้องการถามนายก จะเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่มีลักษณะ ‘ประยุทธ์คิด เศรษฐาทำ ไอ้โม่งสั่ง’ ด้วย”
“น่าผิดหวังที่คุณเศรษฐา กล้าใช้อำนาจในลักษณะที่อาจผิดกฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ควรปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง แต่ไม่กล้าเผชิญหน้าการตรวจสอบจากฝ่ายค้านในสภา ตั้งใจไม่มาตอบกระทู้ถามสดของก้าวไกล แล้วเข้ามาตอบกระทู้ถามอื่นได้ในเวลาติดกัน”
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/Chaithawat_MFP/status/1717405080461439054
https://www.youtube.com/watch?v=_MdTSn4uWT0